Browse Tag: ลดน้ำหนัก

7 ประโยชน์สุดยอดจากแอปเปิ้ลเขียว

green-apple-1
Source: Flickr (click image for link)

วันนี้มาถึงคิวของผลไม้ที่เราเรียกว่า แอปเปิ้ล กันค่ะ แต่วันนี้จะเป็นแอปเปิ้ลสีเขียวค่ะ จากโพสที่แล้วเป็นเรื่องเกี่ยวกับประโยชน์ของแอปเปิ้ลสีแดง และด้วยประโยชน์ที่มีมากมายจากแอปเปิ้ลสีแดงอีกทั้งส่วนข้อมูลของแอปเปิ้ลเขียววันนี้ก็มีประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการที่ดีไม่แตกต่างกันเลยค่ะ อย่างไรก็ดีขึ้นชื่อว่าแอปเปิ้ลแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสีไหนประโยชน์และคุณค่าก็ไม่ได้แพ้กันเลยทีเดียวค่ะ และหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์และก็เพื่อทำให้ทุกๆคนได้ทราบกันว่าแอปเปิ้ลแต่ละสีนั้นเป็นอย่างไร มีคุณค่าทางโภชนาการแตกต่างกันอย่างไรบ้างและมีอย่างไหนที่มีความโดดเด่นจากผลไม้อื่นๆหรือเปล่า ข้อมูลที่กีเหล่านี้รวมถึงสิ่งดีๆเราก็อยากเอามาแชร์และแบ่งปันเผื่อใครที่กำลังเลือกหนทางรักษาสุขภาพโดยการเลือกรับประทานอาหารหรืออยากให้ร่างกายได้รับแต่สิ่งดีๆ เราก็ขอให้ข้อมูลของเราสามารถช่วยคุณได้บ้างนะคะ ถ้าอย่างนั้นเราก็ไปพบและเข้าใจกับข้อมูลที่เกี่ยวกับประโยชน์ต่างๆ ของแอปเปิ้ลเขียวกันให้มากขึ้นกันเลยดีกว่าค่ะ

 

 

7 ประโยชน์สุดยอดที่คุณควรเลือกกินแอปเปิ้ลเขียว

green-apple-2
Source: Flickr (click image for link)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

1.ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก

ปฎิเสธไม่ได้เลยที่จะยกให้เป็นผลประโยชน์ข้อแรกของแอปเปิ้ลเขียวค่ะ จากข้อมูลของ USDA Nutrient database ของกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา พบว่าแอปเปิ้ลเขียวมีคุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้ โดยคุณค่าทางอาหารต่อแอปเปิ้ลเขียว 100 กรัม มีปริมาณพลังงาน 58 กิโลแคลอรี่, น้ำ 85.46 กรัม, น้ำตาล 9.59 กรัม, ไฟเบอร์ 2.8 กรัม และโพแทสเซียม 120 กรัม ค่ะ จากแอปเปิ้ลเขียวที่ให้พลังงานน้อยแล้ว ในแอปเปิ้ลเขียวนั้นมีเอ็นไซม์ที่สามารถช่วยในการลดน้ำหนักได้ค่ะ อีกทั้งยังมีเอ็นไซม์ที่จะเผาผลาญสารอาหารช่วยทำให้ระบบย่อยและระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น นอกเหนือไปจากวิตามินและเกลือแร่ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว กรดผลไม้ที่มีอยู่ในแอปเปิ้ลสามารถช่วยควบคุมและยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนแห่งความอยากอาหาร ด้วยเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลังจากคุณรับประทานแอปเปิ้ลไปซักผลสองผลคุณจะไม่มีความรู้สึกอยากรับประทานอาหารอื่นใดอีกเลย กรดผลไม้ของแอปเปิ้ลยังสามารถช่วยพยุงไม่ให้ระดับของโปรตีนในร่างกายลดต่ำลงและขณะเดียวกันก็ยังช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันถูกดึงมาเก็บสะสมไว้ในร่างกายเพิ่มขึ้นอีกค่ะ

 

2.ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งลำใส้

เปลือกสีเขียว ๆ ของแอปเปิ้ลเขียวก็ยังอัดแน่นไปด้วยประโยชน์มากมายไม่ว่าจะเป็นใ­­­ยอาหารที่มีสูงที่ช่วยในระบบการขับถ่ายและทำให้ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยเอ็นไซม์ที่จะเผาผลาญสารอาหารช่วยทำให้ระบบย่อยและระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น พร้อมกันนั้นก็อุดมไปด้วยเพกติกสารคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่งซึ่งสามารถต่อต้านเชื้อแบคทีเรียร้ายในระบบทางเดินอาหารตัวการที่ทำให้คุณเกิดอาการท้องร่วงค่ะ

 

3.ช่วยเรื่องของผิวพรรณ

นอกจากเรื่องของสุขภาพร่างกายแล้ว เรื่องของความสวยความงามนั้นแอปเปิ้ลเขียวก็ไม่พลาดที่จะมีบทบาทสำคัญอยู่เหมือนกันค่ะ เนื่องจากแอปเปิ้ลเขียวมีวิตามินที่จำเป็นสำหรับผิวพรรณและด้วยที่เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินต่าง ๆ ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณ อย่างเช่น วิตามิน C ซึ่งก็ได้พบว่าในแอปเปิ้ลเขียวจะมีมากกว่าผลไม้ชนิดอื่น ๆ บางประเภทเสียอีกค่ะ และก็พบว่าถ้าเรารับประทานแอปเปิ้ลเขียวทั้งเปลือกนั้นสาร “โพลีฟีนอล” ที่มักจะอยู่ตามเปลือกหรือเนื้อที่อยู่ติดกับเปลือก จะไปช่วยป้องกันผิวพรรณไม่ให้โดนแดดเผาทำลาย ป้องกันยูวีเอและยูวีบีจากแสงแดด เวลาที่เรากัดแอปเปิ้ลทิ้งไว้แล้วสีของเนื้อแอปเปิ้ลเปลี่ยนไปนั่นแสดงว่ามีสาร “โพลีฟีนอล” นั่นเอง ดังนั้นจึงเข้าใจได้ว่าที่ไหนมีสารโพลีฟีนอล พอโดนอากาศก็จะเกิดสนิมเป็นสีน้ำตาลขึ้นมาทันที ไม่ว่าจะเป็นผักหรือผลไม้ค่ะ

 

4.ช่วยลดคอเลสเตอรอล

แอปเปิ้ลมีสารเพคตินซึ่งเป็นไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ เมื่อกรดในทางเดินอาหารย่อยสลายไขมันแยกคอเลสเตอรอลออกมาแล้ว เพคตินจากแอปเปิ้ลจะไปคอยดักจับคอเลสเตอรอลเหล่านั้นและนำไปทิ้งก่อนที่จะถูกดูดกลับเข้าสู่ร่างกายอีกครั้งค่ะ ง่ายๆก็คือช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันถูกดึงมาเก็บสะสมไว้ในร่างกายเพิ่มเติมอีกนั่นเองค่ะและยังพบว่าแอปเปิ้ลลดคอเลสเตอรอลในผู้หญิงได้ดีกว่าผู้ชายด้วยค่ะ

 

5.ช่วยลดน้ำตาลในเลือด

แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำตาลในเลือด เมื่อรับประทานอาหารเข้าไป อาหารแต่ละชนิดก็จะถูกย่อยสลายและดูดซึมผ่านผนังกระเพาะลำไส้เข้าสู่กระแสเลือด ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดจะเพิ่มช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของอาหารนั้นๆ คนที่รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์มากๆ จะมีโอกาสเกิดเบาหวานต่ำกว่าคนที่รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์น้อย และสำหรับคนที่เป็นเบาหวานอยู่แล้ว ไฟเบอร์จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ด้วยและแอปเปิ้ลมีไฟเบอร์ชนิดที่ละลายน้ำสูงมาก จึงเหมาะสำหรับคนที่เป็นเบาหวานค่ะ

 

6.ช่วยลดการสูญเสียกล้ามเนื้อจากการป่วย

ในคนที่ชอบออกกำลังกายเป็นประจำอยู่เสมอนั้นมักจะมีกล้ามเนื้อที่เฟิร์มและแข็งแรง แต่ถ้าเกิดวันหนึ่งคุณได้เกิดล้มป่วยขึ้นมานั้น อาจจะทำให้คุณต้องหยุดพักร่างกายจนออกกำลังกายไม่ได้เป็นช่วงเวลาหนึ่ง แน่นอนว่าในขณะที่คุณหยุดพักกล้ามเนื้อส่วนที่ได้เพิ่มเติมขึ้นมาจากการออกกำลังกาย อาจจะมีน้อยลงหรือหายไปบ้าง ซึ่งในจุดนี้เองที่ผู้ชายส่วนใหญ่มักจะกังวล เพราะการที่กล้ามเนื้อหายไปก็มักจะทำให้รูปร่างที่เคยดูดีนั้นเปลี่ยนไปด้วย แต่สิ่งเหล่านี้สามารถป้องกันได้ โดยการบริโภคแอปเปิ้ลสีเขียวเป็นประจำเพราะในแอปเปิ้ลสีเขียวนั้นประกอบไปด้วยกรดบางชนิดที่เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ ในการเพิ่มพลังและสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อของเราโดยตรงนั่นเองค่ะ

 

7.ช่วยบรรเทาโรคภัยไข้เจ็บ

ด้วยที่ว่าในแอปเปิ้ลนั้นมีวิตามินซีและเบต้าแคโรทีนอยู่มาก จึงสามารถช่วยบรรเทาหรือป้องกันโรคหวัดและโรคเลือดออกตามไรฟันได้ และแอปเปิ้ลยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้นจึงช่วยได้ทั้งอาการท้องผูกและท้องเสีย ใครที่มีอาการท้องผูกแอปเปิ้ลจึงเป็นผลไม้ในตัวเลือกหนึ่งเลยก็ว่าได้ค่ะ อีกทั้งยังทำให้ความดันโลหิตค่อยๆ ลดลง เหมาะสำหรับผู้ที่ความดันโลหิตสูงอีกด้วยค่ะ

 

 

www.flickr.com/photos/36328518@N07/3384100342/

www.flickr.com/photos/63723146@N08/8482731764/

12 อาหารโปรตีนที่ควรเลือกทานในช่วงลดน้ำหนัก

keep-healthy-1
Source: Flickr (click image for link)

สมัยนี้หรือสมัยไหนๆ ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย วัยรุ่น วัยไหนก็อยากที่จะมีรูปร่างหุ่นผอมเพรียวได้สัดส่วนกันทั้งนั้น พยายามกันทุกวิถีทางอย่างหนักเพื่อที่จะลดความอ้วนให้ได้อย่างนางแบบ ดารา ไม่ว่าวิธีไหนใครบอกว่าดีก็ทำหมดรวมถึงทางลัดโดยการรับประทานยาลดความอ้วนที่บอกต่อๆ กันมา หรือแค่คลิกเดียวในอินเตอร์เนทก็ไม่เห็นจะยากเย็นที่จะค้นหา บางคนออกกำลังกายอย่างบ้าคลั่งก็ยังไม่เห็นจะมีหุ่นที่ผอมเพรียวอย่างที่หวัง จนลืมและมองข้ามวิธีการที่ง่ายและใกล้ตัวของเรามากที่สุด นั่นก็คือการควบคุมการรับประทานอาหารนี้เอง แต่ก็ยังมีบางคนพยายามที่จะอดอาหารมื้อเย็นเพื่อที่จะให้น้ำหนักลดลงเร็วที่สุดแต่พอน้ำหนักลดลงแล้วก็เลยคิดว่าพอละ พอใจกับน้ำหนักแล้ว จึงเลือกกลับมารับประทานเหมือนที่เคย แต่ดันอ้วนกว่าเดิมเป็นหลายเท่า ซึ่งนั่นก็ยังคิดไม่ตกแล้วสิว่าต้องทำยังไงกันแน่ วันนี้ทาง HealthGossip อยากจะมานำเสนออีกทางเลือกของการรับประทานอาหารกันค่ะ เริ่มด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มึโปรตีนคุณภาพสูงหรือที่เรามักจะคุ้นชินกับอาหาร High Protein กันนั่นแหละค่ะ ทำไมต้องเลือกวิธีนี้น่ะหรอ ก็เนื่องด้วยการที่เราพยามยามลดความอ้วนด้วยการรับประทานอากหารประเภทโปรตีนสูงก่อนนั้น จะทำให้น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว เหมาะกับคนที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างเร่งด้วย โดยการเลือกรับประทานที่เป็นโปรตีนสูงอย่างเดียวสักสองอาทิตย์ เพื่อให้ร่างกายของเรานำคาร์โบไฮเดรตที่สะสมอยู่ในร่างกายมาใช้เป็นพลังงานให้หมดก่อนนั่นเองค่ะ อีกทั้งโปรตีนยังช่วยให้อิ่มท้องนานอีกด้วยจึงไม่ทำให้เราไม่กินจุบกินจิบระหว่างวันด้วยค่ะ

 

12 อาหารประเภทโปรตีนที่ควรเลือกทานในช่วงลดน้ำหนัก

Close Up Of Woman Eating handful Of Almonds
Source: Flickr (click image for link)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

1.ไข่ไก่

ไข่ไก่เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีที่สุดชนิดหนึ่ง และยังเป็นอาหารที่หารับประทานได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป ราคาไม่ได้ถือว่าแพงมากมาย อีกทั้งยังสามารถประกอบเป็นอาหารได้หลากหลายเมนู ยิ่งถ้าหากรับประทานไข่เป็นอาหารเช้าก็จะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่และลดความอยากของน้ำตาลลงไปได้เยอะเลยแหละ ใครที่อยากจะลดน้ำหนัก ขอแนะนำให้รับประทานเจ้าไข่ไก่นี่แหละ แต่ก็ไม่ควรรับประทานมากกว่าวันละ 2 ฟอง เพราะไข่ 1 ฟองมีปริมาณคอเลสเตอรอล 186 มิลลิกรัม และร่างกายเราก็ควรได้รับคอเลสเตอรอลไม่เกินวันละ 300 มิลลิกรัม

 

2.เนื้อปลา

เนื้อปลานั้นถือเป็นแหล่งโปรตีนจากสัตว์ที่มีคุณภาพดีและจัดอยู่ในกลุ่มเนื้อสัตว์ที่ไขมันต่ำ โดยในเนื้อปลาที่ควรเลือกรับประทาน เช่น ปลาแซลมอล ปลาแมคเคอเรล ปลาแฮริง ปลาเทราท์ และปลาซาร์ดีน ซึ่งในปลาจำพวกที่กล่าวมายังมีกรดไขมันที่เราเรียกว่า โอเมก้า 3 ในปริมาณที่สูง นอกจากสุขภาพดีแล้วยังช่วยเรื่องการประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูทำให้ไม่มีเบื่อกันเลยแหละค่ะแม้จะอยู่ในช่วงที่เรากำลังลดน้ำหนักก็ตาม

 

3.กุ้ง หอย ปู ปลาหมึก

กุ้ง หอย ปู ปลาหมึกหรือที่เราชอบรับประทานในรูปแบบของซีฟู้ดส์นั้นยังถือว่าเป็นเนื้อสัตว์ที่ไขมันต่ำอยู่ ก็ยังเป็นอีกทางเลือกที่ถ้านึกไม่ออก ไม่อยากเบื่อกับการรับประทานโปรตีนก็เปลี่ยมาทำเมนูซีฟู้ดส์ทานสักหน่อยก็ดีค่ะ

 

4.อัลมอนด์

ถั่วเมล็ดอัลมอนด์ที่ใครหลายคนชอบรับประทานเป็นของหวานหรือผสมอยู่กับอาหารหวานหลายๆชนิด ไม่ว่าจะเป็นช็อคโกแลต ไอศครีมต่างๆ แต่รู้กันหรือเปล่าคะว่านอกจากความอร่อยที่แสนจะเพลิดเพลินใจจากแอลมอนด์นี้แล้ว แอลมอนด์ยังให้คุณค่าทางโปรตีนสูงใช่เล่นเลยล่ะค่ะ อัลมอนด์ที่เราทานเล่นๆกันในปริมาณ 100 กรัม ก็ให้ปริมาณโปรตีนถึง 21 กรัมเชียวล่ะค่ะ ในช่วงที่เรากำลังลดน้ำหนักอยู่นี้ อัลมอนด์เป็นอีกทางเลือกในการรับประทานกันนะคะ

 

5.โยเกิร์ต

พูดถึงโยเกิร์ตแล้ว นอกจากจะเป็นทั้งแหล่งโปรตีนที่ดีแล้วยังอุดมไปด้วยโปรไบโอติกส์ ซึ่งต่างก็มีประโยชน์ต่อการลดน้ำหนักทั้งสิ้น โปรตีนในโยเกิร์ตจะเข้าไปช่วยป้องการผกผันของระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนโปรไบโอติกส์ก็จะเข้าไปช่วยทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น แต่ยังไงก็ต้องเลี่ยงโยเกิร์ตที่มีน้ำตาลสูงหรือมีส่วนผสมของผลไม้เชื่อมสักนิดค่ะ จะให้ดีก็รับประทานโยเกิร์ตรสธรรมชาติ กับผลไม้สด ๆ หรือธัญพืชนี่ก็เข้ากันได้ดีเชียวล่ะค่า

 

6.เนยถั่ว

รู้หรือเปล่าคะ ว่าเจ้าเนยถั่วเพียงแค่ 2 ช้อนโต๊ะนั้นมีโปรตีนถึง 7 กรัมเชียวแหละค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะต้องเป็นเนยถั่วที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งใดๆนะคะ ควรจะเป็นเนยถั่วล้วนๆถึงจะดีสำหรับคนที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักค่ะ เนยถั่วนอกจากให้โปรตีนแล้วยังเต็มไปด้วยไขมันตัวที่ดีต่อสุขภาพของเราอีกด้วยค่ะ แต่ยังไงถ้าทานเยอะมากไปก็อาจจะทำให้อ้วนได้เหมือนกันค่ะ

 

7.เมล็ดเจีย

พูดถึงเมล็ดเจียในคนที่อยากควบคุมน้ำหนักก็คงจะร้องอ๋อกันที่เดียวเชียวค่ะ นอกจากทำให้อิ่มนานขึ้นแล้วทราบหรือเปล่าคะว่าเมล็ดตัวนี้ยังมีโปรตีนที่สูงและยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 กับไฟเบอร์ที่มากล้นอยู่ด้วยค่ะ เพราะอย่างนี้ช่วงที่ควบคุมน้ำหนกก็อย่าลืมนำมารับประทานกันนะคะ

 

8.ผักปวยเล้ง

มาถึงพืชผักอีกชนิดหนึ่งที่คิดไม่ถึงอยู่เหมือนกันว่าจะมีโปรตีนจากพืชได้สูงถึงเพียงนี้ แถมยังให้แคลอรี่ต่ำไหนจะมีวิตามินและแร่ธาตุมากล้นอีกต่างหาก นอกจากจะให้ประโยชน์ต่อร่างกายแล้วยังเหมาะมากๆ ในคนที่กำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก การที่ได้รับประโยชน์จากผักปวยเล้งแบบจัดเต็มนั้นก็ควรที่จะรับประทานแบบที่ผ่านความร้อนแล้วก็จะดีกว่าการรับประทานแบบผักสดค่ะ เนื่องจากร่างกายของเราจะได้ดูดซึมสารอาหารและวิตามินแร่ธาตุได้ดีกว่านั่นเองค่ะ

 

9.ฝรั่ง

ในช่วงลดน้ำหนัก การเลือกรับประทานผลไม้นี่ก็สำคัญเช่นกันค่ะ เนื่องจากผลไม้บางชนิดก็ให้คาร์โบไฮเดรตที่สูงเทียบเท่ากับการรับประทานข้าวค่ะ หรือบางชนิดก็มีรสหวานน้ำตาลสูงก็ขอให้ข้ามไปก่อนนะคะ แต่ถ้าอยากให้ได้ประโยชน์มากขึ้นก็ควรรับประทานผักผลไม้ที่หลากหลายสักหน่อย ซึ่งผลไม้อีกชนิดที่แนะนำว่าไม่ควรพลาดก็คือฝรั่ง เพราะฝรั่งนั้น มีปริมาณโปรตีนไม่น้อยไปกว่าอาหารชนิดอื่น ๆ แถมยังเต็มไปด้วยไฟเบอร์ และมีวิตามินซีสูงกว่าที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันถึง 6 เท่า เทียบเท่ากับการรับประทานส้มถึง 7 ผล ! หรือผลไม้จำพวก ตระกูลเบอร์รี่ ไม่ว่าจะเป็นสตรอเบอร์รี่ เบอร์รี่ เชอร์รี่ กีวี่ แอปเปิ้ล นอกจากจะให้รสชาติที่ดีแล้วยังมีสารต่อต้านอนุมูลอีสระมากมายด้วยค่ะ ดีงามขนาดนี้ ไม่รีบหามารับประทานบอกเลยว่าพลาดมากค่ะ

 

10.คีนัว

คีนัวถึงแม้จะเป็นพืชแต่เป็นอาหารเพื่อสุชภาพที่เราทราบกันได้ดีในนาม super foods เนื่องจากอุดมไปด้วยโปรตีนและไฟเบอร์ เป็นอาหารที่สามารถย่อยง่ายและปราศจากกลูเตน จึงเหมาะสำหรับคนที่อยู่ในช่วงการลดน้ำหนัก เพราะเมื่อเรารับประทานคีนัวเข้าไปแล้วก็จะทำให้อยู่ท้องนานขึ้น ไม่รู้สึกหิวในระหว่างมื้อ ลดการกินจุบจิบและการรับประทานอาหารในแต่ละมื้อลงได้ค่ะ

 

11.เม็ดมะม่วงหิมพานต์

ของกินเล่นอีกอย่างที่อยากจะแนะนำสำหรับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เนื่องด้วยเป็นอาหารที่อุดมด้วยโปรตีน ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม แคลเซียม และทองแดง โดยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ 100 กรัม ให้ปริมาณโปรตีนถึง 18.2 กรัม นอกจากนี้แมกนีเซียมที่อยู่ในเม็ดมะม่วงหิมพานต์ก็ยังส่งผลดีกับสุขภาพอย่างน่าอัศจรรย์ เพราะเจ้าแร่ธาตุชนิดนี้สามารถช่วยรักษาอาการท้องผูก นอนไม่หลับ แก้อาการปวดหัว และลดการเกิดตะคริวได้ อีกทั้งยังช่วยสร้างเสริมระบบการทำงานของสมองและภูมิคุ้มกันด้วย แต่ก็อย่ารับประทานมากจนเกินไป เพราะเจ้าถั่วเปลือกแข็งชนิดนี้ก็มีแคลอรีสูงมากเหมือนกัน

 

12.ถั่วเหลือง

ตามธรรมชาติแล้วโปรตีนจากสัตว์จะให้กรดอะมิโนสมบูรณ์ครบถ้วนกว่าโปรตีนจากพืช แต่ในทางกลับกันถึงแม้โปรตีนจากพืชจะมีกรดอะมิโนบางชนิดน้อยกว่าแต่ก็มีไขมันแฝงน้อยด้วยเหมือนกันถ้าเทียบกับเนื้อสัตว์ แถมยังมีใยอาหารที่ช่วยทำให้อิ่มเร็วและช่วยระบบขับถ่ายได้ดีขึ้นอีกแน่ะ ดังนั้น การเลือกกินโปรตีนจากสัตว์ที่มีไขมันแฝงน้อยและโปรตีนจากพืชอย่างสมดุลก็จะสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ อย่างเช่น เต้าหู้ น้ำนมถั่วเหลือง ถั่วเหลือง เป็นต้น นอกจากนี้ หากเรากินโปรตีนในมื้อเช้ายังมีข้อดีคือช่วยให้สมองแจ่มใส มีสมาธิในการเรียนและทำงานมากขึ้น เพราะร่างกายจะสร้างสารทริปโตเฟนช่วยให้สมองกระปรี้กระเปร่า ถั่วเหลืองให้โปรตีนสูงอีกทั้งยังเป็นโปรตีนคุณภาพดี สามารถทดแทนเนื้อสัตว์ได้และมีกรดอะมิโนจำเป็นมากกว่าถั่วชนิดอื่นๆ และเป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายเราสร้างเองไม่ได้แต่ก็ต้องการซึ่งหาได้จากถั่วเหลืองนี้เอง น่าจะเหมาะกับคนที่รับประทานมังสาวิรัตหรือเบื่อเนื้อสัตว์ก็ลองเลือกรับประทานได้ค่ะ

 

 

www.flickr.com/photos/130855607@N05/16086503254/

www.flickr.com/photos/117032936@N08/14065606084/

13 ผลไม้แสนอร่อยที่กินแล้วไม่อ้วน

mixed-fruits-1
Source: Flickr (click image for link)

ถ้าจะพูดถึง ”ผลไม้” แล้วถือว่าประเทศไทยเราเป็นประเทศที่โชคดีมีผลไม้ให้เลือกรับประทานกันตลอดฤดูการอยู่แล้ว นอกจากรสชาติที่แสนจะหอมหวานอร่อย ชื่นใจแล้วนั้นยังจะหาทานได้ง๊ายง่ายทั่วไปอีกด้วย เราคงทราบกันดีนะคะว่าผลไม้นอกจากอร่อยแล้วยังมีวิตามินและเกลือแร่ต่างๆ มากมายแถมยังเต็มไปด้วยสารอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันอีกด้วย และที่สำคัญถ้าคุณเลือกรับประทานดีๆ เจ้าผลไม้ที่แสนอร่อยนี่แหละจะเป็นอีกทางเลือกของสาวๆที่อยากจะลดความอ้วนได้อีกด้วย การรับประทานผลไม้เพื่อรักษาหุ่นหรือลดน้ำหนักนั้น นับเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการอดอาหารหรือกินยาลดความอ้วน เพราะการทานผลไม้นั้นจะทำให้เราได้รับไฟเบอร์และวิตามินมากมายในปริมาณที่พอเหมาะกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวันแถมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วยนั่นเอง วันนี้ HealthGossip จึงนำข้อมูลเหล่านี้มาบอกสาวๆ หรือคนที่กำลังอยากลดน้ำหนักแต่ก็อยากรับประะทานของอร่อยๆด้วยเหมือนกัน งั้นอย่ารอช้ากันเลยรีบไปดูกันว่ามีผลไม้อะไรบ้าง!

 

13 ผลไม้ที่แสนอร่อยที่กินแล้วไม่อ้วน!

 

1.แอปเปิ้ล

ราชาผลไม้ลดความอ้วน ในแอปเปิ้ลมีน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ง่ายต่อการดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้ภายในไม่ถึง 10 นาที จึงช่วยลดความอยากอาหารและควบคุมน้ำหนักได้ดี อีกทั้งกากใยจากเปลือกแอปเปิ้ลยังช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายแอปเปิล 1 ลูก ยังมีแคลอรีเพียงแค่ 59 แคลอรี แถมยังมีวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมาย โดยเฉพาะ เพกติน มีคุณสมบัติพองตัว มันจึงเพิ่มกากใยอาหาร ดี ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ ช่วยดักจับคอเลสเตอรอลในร่างกาย แถมยังช่วยกำจัดสารพิษในร่างกายอีกด้วย การรับประทานแอปเปิ้ลเพื่อลดน้ำหนักนิยมรับประทานแทนอาหารมื้อเย็น แต่ทั้งนี้ต้องรับประทานทั้งเปลือกเพราะถ้าปลอกเปลือกออกสารอาหารสำคัญต่างๆ ก็จะลดน้อยลงไปด้วย

 

2. เบอร์รี่

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ยังไงก็ยังมาวินอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น สตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่  แบล็กเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ และราสเบอร์รี่ ที่เต็มไปด้วนสารอาหารและมีน้ำตาลน้อยกว่าผลไม้ชนิดอื่นๆ เช่นมะม่วงหรือกล้วย นั่นคือเหตุผลที่ผลเบอร์รี่มักถูกยกย่องให้เป็นผลไม้เผาผลาญไขมันที่ดี ผลเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารสูงและมีแคลอรีต่ำแถมยังหวานแบบมีประโยชน์ เส้นใยในผลเบอร์รี่ช่วยให้อิ่มเร็ว อิ่มนาน และยังมีวิตามินแร่ธาตุ สารต่อต้านอนุมูลอิสระอีกด้วยค่ะ โดยเฉพาะ สตรอเบอร์รี่นั้นถ้ากินในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายลดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมันสามารถควบคุมปริมาณแคลอรีแถมยังให้วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายด้วย สตรอเบอร์รี่มีแคลอรีเพียง 50 แคลอรี และ มีน้ำตาล 7 กรัม แต่มีเส้นใยอาหารถึง 3 กรัม แต่สิ่งที่สุดยอดเกี่ยวกับสตรอเบอร์รี่ (และผลเบอร์รี่ทั้งหมด) คือ มันตอบสนองความต้องการของหวานและน้ำตาลของคุณได้เป็นอย่างดี แถมยังมีสารอาหารที่น่าประทับใจอื่นๆ อีกมากมาย

 

3. มะละกอ

ในมะละกอสุกนั้นจะมีไขมันน้อยมากจนเรียกว่าไม่มีเลยก็ได้และยังให้พลังงานไม่ถึง 50 แคลอรี่ต่อ 100 กรัมดังนั้นมะละกอจึงเป็นผลไม้ลดน้ำหนักอีกชนิดหนึ่งที่ผู้คนนิยมรับประทาน นอกจากนี้ การกินเนื้อมะละกอสุก ช่วยเป็นยาระบายอ่อนๆ เพราะไปช่วยเพิ่มจำนวนกากไยอาหาร ดังนั้นเนื้อผลสุกของมะละกอจะช่วยระบายอ่อนๆ แก้ท้องผูก ให้วิตามินซีสูง เสริมสร้างระบบย่อยอาหารให้ทำงานดีอีกด้วยค่ะ

 

4. ฝรั่ง

สุดยอดผลไม้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวิตามินซีชนิดนี้ ช่วยให้คุณลดความอ้วนได้ไม่ยาก เพราะฝรั่งเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำ แถมยังเคี้ยวเพลินอีกต่างหาก จึงเหมาะกับสาว ๆ ที่อยากกินจุบกินจิบเรื่อยๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความอ้วนได้แล้ว วิตามินซีในฝรั่งยังช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ไร้ริ้วรอยอีกด้วย เพราะฉะนั้น หิวเมื่อไหร่ก็อย่าลืมคว้าฝรั่งมาทานแทนขนมกรุบกรอบกันนะคะ และถ้าให้ดี ควรทานแต่ฝรั่งเปล่าๆ เท่านั้นล่ะ อย่าไปเผลอเคยตัวจิ้มพริกเกลือ พริกน้ำตาล เด็ดขาด เพราะจะทำให้อ้วนได้นะ

 

5. แก้วมังกร

เป็นผลไม้ที่มีกากใยสูงและแคลอรีต่ำแถมยังมีรสหวานอร่อย หลายๆ คนจึงเลือกรับประทานแก้วมังกรเป็นอาหารเย็นหรือทานรวมกับผักสลัดอื่นๆ เพื่อช่วยลดน้ำหนัก โดยไม่ต้องห่วงว่าความหวานจะไปเป็นไขมันสะสมในภายหลัง และนอกจากลดน้ำหนักแล้ว ผลพลอยได้จากแก้วมังกรที่คุณสาวๆ ไม่ควรพลาดอีกเช่นกันก็คือ แก้วมังกรเป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่มีวิตามินซีสูงมาก ดังนั้นจึงช่วยบำรุงผิวพรรณไปในตัวแถมยังช่วยกระตุ้นต่อมน้ำนมดีต่อคุณแม่ที่เพิ่งคลอดบุตรด้วย

 

6. มะเขือเทศ

เป็นพืชชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร มีวิตามินซีสูงและให้วิตามินเอราว 1 ใน 3 ของวิตามินเอที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน นอกจากนี้มะเขือเทศยังมีโปแตสเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียมและแร่ธาตุอื่นๆ อีกหลายชนิด ส่วนช่วยลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งและโรคหัวใจ ให้พลังงาน 20 kcal ต่อ 1 ผล

 

7. อะโวคาโด

เป็นที่นิยมในแถบทวีปอเมริกาและยุโรป แม้ว่าอะโวคาโค 100 กรัมให้พลังงาน 189 แคลอรี่และ อะโวคาโด 1 ขีด มีไขมัน 19.3 กรัม แต่ไขมันที่มีนั้นเป็น กรดไขมันชนิดที่ดี ที่เป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวในอะโวคาโด้ ไขมันที่ไม่อิ่มตัวนั่นหมายความว่ามันไม่ทำให้คุณอ้วนขึ้นเพราะจะช่วยเผาผลาญไขมันอิ่มตัวในร่างกาย มีคุณสมบัติช่วยลดไขมันร้ายในหลอดเลือด ทำให้โอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบและหัวใจวายลดลง มีสารอาหารสูงและหลากหลายมีประโยชน์ต่อสุขภาพมาก เมื่อเทียบกันแล้วอะโวคาโดยังมีโพแทสเซียมมากกว่ากล้วยถึง 60% นอกจากนี้ยังมีวิตามินเอ, บี, ซี, อี และเป็นผลไม้ที่คาร์โบไฮเดรตต่ำมากด้วยค่ะ

 

8. ผลไม้ตระกูลส้ม

ไม่ว่าจะเป็นส้มโอ ส้มเขียวหวาน นั้นนอกจากช่วยป้องกันโรคหวัดและการติดเชื้อแบคทีเรียแล้วยังลดปริมาณโคเลสเตอรอลในโลหิต ช่วยระบบย่อยอาหารของร่างกาย ระบายได้มีแก้อาการท้องผูก และมีคุณค่าทางอาหาร ให้วิตามินซีสูง ให้พลังงาน 60 kcal สำหรับส้มเขียวหวาน 2 ผลกลาง และให้พลังงานที่เท่ากันสำหรับส้มโอ 2 กลีบ 

 

9. เกรปฟรุต

ผลไม้ที่ดีที่สุดในการลดไขมัน ช่วยให้คุณกินแคลอรีน้อยกว่าที่คุณเผาออกไป ตัวอย่างเช่น คุณกินเกรปฟรุตครึ่งลูกก่อนมื้ออาหาร จะช่วยให้น้ำหนักคุณลดลงอย่างเหลือเชื่อ นักวิจัยในสหรัฐอเมริกาพบว่า การกินเกรปฟุตครึ่งลูกก่อนมื้ออาหารนั้น จะช่วยให้คุณลดแคลอรีได้ถึง 150 แคลอรีต่อวัน แถมเกรปฟรุตครึ่งลูกมีแคลอรีอยู่เพียง 39 แคลอรีเอง ดังนั้นจึงเหมาะกับคนที่กำลังลดความอ้วน

 

10. กีวี่

กีวี่เป็นผลไม้ผลรีรูปไข่ มีขนเล็กๆปกคลุมทั่วผล เนื้อสีเขียว บางพันธุ์เนื้อสีเหลือง ชุ่มน้ำ รสเปรี้ยวอมหวาน เป็นผลไม้ที่เก็บไว้ได้นาน สารแอกทินิดีนในกีวีช่วยเสริมภูมิคุ้มกันทำให้หัวใจแข็งแรง มีแคลอรี่ต่ำ ให้พลังงาน 60 kcal ต่อ 100 g

 

11. สับปะรด

สับปะรดนอกจากให้วิตามินซีสูงแล้วยังมีเอนไซม์ที่ช่วยย่อยโปรตีนที่มีชื่อบรอมีเลน (bromelain) ช่วยย่อยโปรตีนไม่ให้ตกค้างในลำไส้และมีเกลือแร่ วิตามินซีจำนวนมาก แถมมีส่วนช่วยต้านเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ให้พลังงาน 50 kcal ต่อ 100 g

 

12. ผลไม้กลุ่มแตง

ไม่ว่าจะเป็น แตงโม, แตงไทย ล้วนเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำ โดยเฉพาะแตงโมเป็นผลไม้ที่มีคุณสมบัติเย็น จะช่วยลดอาการไข้ คอแห้ง บรรเทาแผลในปากแล้วก็ล้างพิษให้กับร่างกาย ให้พลังงาน 30 kcal ต่อ 100 g

 

13. องุ่น

องุ่นมีรสหวาน เป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการน้ำตาล และช่วยการล้างพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากองุ่นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง ช่วยล้างพิษในตับ ไต และระบบการย่อยอาหารอย่างได้ผล  มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ องุ่นมีน้ำตาลตามธรรมชาติสูง จึงมีค่าดัชนีไกลเซมิกสูง แต่ยังเป็นอาหารที่ดีสำหรับผู้ลดน้ำหนัก องุ่นพวงเล็กประมาณ 12-15 ผล สามารถใช้เป็นของหวานหรือของว่างที่แสนอร่อยได้อีกด้วยค่ะ

 

strawberry-frappe-1
Source: Flickr (click image for link)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อย่างไรก็ตามการรับประทานผลไม้อย่างเดียวนั้นก็คงจะไม่สามารถช่วยลดความอ้วนได้ซะทีเดียวเลยนะคะ เราก็ควรที่จะออกกำลังกายและรับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่ นอกจากน้ำหนักจะลดลงได้แล้วโรคร้ายยังไม่กล้ามากล้ำกรายคุณอีกด้วยค่ะ และบางทีนั้นสาวๆก็อาจจะยังไม่รู้อีกด้วยว่าการดื่มน้ำผลไม้คั้นนั้นแม้จะไม่ใส่น้ำตาล แต่แท้จริงแล้วก็มีน้ำตาลธรรมชาติจำนวนมาก ซึ่งถ้าดื่มแล้วไม่ออกกำลังกายเผาผลาญทิ้งไป ก็อาจทำให้อ้วนมากกว่าการดื่มนมจืดที่พร่องมันเนยเสียอีก และปริมาณน้ำตาลที่นักโภชนาการแนะนำให้รับประทานต่อวันก็คือ ไม่ควรเกิน 4 ช้อนชาสำหรับเด็ก และ 6 ช้อนชาสำหรับผู้ใหญ่ หากเราดื่มน้ำผักผลไม้รวมพร้อมดื่ม 1 แก้ว หรือประมาณ 200 มิลลิลิตร เราจะได้น้ำตาลประมาณ 4 ช้อนชา ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อรวมกับอาหารทั้งวันที่รับประทาน ยังไงก็หวังว่าจะเป็นความรู้ให้สาวๆได้เลือกทานให้ถูกต้องกันนะคะ 😀

 

www.flickr.com/photos/clotee_allochuku/14385353064/

www.flickr.com/photos/lythienhoang/19023673622/

  • 1
  • 2