โรคมะเร็ง

12 สุดยอดประโยชน์ต่อสุขภาพจากผักเคล (Kale)
“ผักเคล (Kale)” ที่หลายๆ คนคุ้นชินและพบเห็นกันส่วนใหญ่คือเป็นผักที่นิยมนำมาทำสมูทตี้สีเขียวสดใสให้ความรู้สึกว่าเป็นเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ หรือจะนำมารับประทานเป็นสลัดแม้แต่ใส่ในขนมปังโฮลวีททำเป็นแซนวิสในวันที่เร่งรีบก็ให้ความรู้สึกดีไปอีกแบบค่ะ ผักเคลขึ้นชื่อว่าเป็นอีกชนิดของผักใบเขียวที่คนทั่วโลกยกให้เป็น สุดยอดอาหาร (Super Food) ที่ดีและด้วยความที่มีคุณค่าทางโภชนาการอยู่สูงมาก! ผักเคลที่เราๆ เรียกกันว่าผักคะน้าใบหยิกนั่นเองและก็ไม่แปลกใจเลยเนื่องจากผักเคลเป็นพืชผักใบเขียวที่อยู่ในตระกูลเดียวกันกับ คะน้า บล็อคโคลี่ นั่นเอง เห็นว่าเป็นผักที่มีประโยชน์อย่างมหัศจรรย์อย่างนี้แล้วการเพาะปลูกก็ไม่ยากด้วยเช่นกันค่ะ ด้วยคุณค่าสารอาหารที่มากมายมหาศาลแล้วยังอุดมไปด้วยวิตามิน เค เอ และวิตามินซีอีกด้วย จนได้รับฉายาและถูกขนานนามอย่างมากมายเช่น ราชินีแห่งผักใบเขียว โรงอาหารเพื่อสุขภาพ หรือแม้กระทั่งเป็นพืชใบสีเขียวที่ถูกยกให็เป็น เนื้อวัวชนิดใหม่ จนชวนให้สงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไรกันนี่? ผักเคลมีคุณค่าทางโภชนาการมากมายขนาดนี้เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเราอย่างไรบ้าง ด้วยยุคที่หลายคนหันมาให้ความสนใจต่อสุขภาพกันมากขึ้นเพราะฉะนั้นสมัยนี้ก่อนที่เราจะเลือกบริโภคสินค้า หรือแม้แต่การเลือกอาหารมาบริโภคการที่เราได้รู้ถึงคุณค่าทางโภชนาการเท่านั้นยังไม่เพียงพอค่ะ เราต้องรู้ด้วยว่ามันดีต่อร่างกายยังไง เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วสารอาหารแต่ละอย่างที่เราได้รับมันไปทำงานต่อระบบต่างๆ ในร่างกายของเรายังไงค่ะ ดังนั้นเรามาดูกันว่าผักเคลที่เราได้เห็นและได้ยินมานี่มันดีต่อสุขภาพร่างกายของเราอย่างไรบ้างค่ะ 12 สุดยอดประโยชน์ต่อสุขภาพจากผักเคล (Kale) 1.ป้องกันโรคมะเร็ง พบว่าผักตระกูลกะหล่ำเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วย glucosinolates ซึ่งเป็นสารประกอบที่มีกำมะถันเป็นจำนวนมาก ซึ่งหนึ่งในผักตระกูลกะหล่ำนี้ก็มีผักเคลรวมอยู่ด้วยนั่นเอง โดยผักเคลสามารถไปช่วยยับยั้งการเกิดโรคมะเร็งได้และการเป็นโรคมะเร็งมีสิ่งที่น่ากลัวมากที่สุดนั่นก็คือการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งลามไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งสารเคมีเหล่านี้ได้ถูกทำการย่อยสลายระหว่างการเคี้ยวและถูกย่อยสลายกลายเป็นสารประกอบที่ใช้งานทางชีวภาพ เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งที่เรียกว่า indoles, thiocyanates และ isothiocyanates ซึ่งสามารถหยุดยั้งมะเร็งจากการแพร่กระจายได้นั่นเองค่ะ 2.ล้างสารพิษ การล้างสารพิษหรือที่เราเรียกกันว่าการ […]

16 ประโยชน์ต่อสุขภาพจากผักปวยเล้ง (Spinach)
“ผักปวยเล้ง (Spinach)” ผักปวยเล้งที่หลายคนมักสับสนว่านั่นคือผักโขมจากการ์ตูนเรื่องป๊อบอายที่เคยดูกันตอนเด็กๆ กันเมื่อตัวป๊อบอายได้กินผักที่ชื่อว่า Spinach เข้าไปจะทำให้ร่างกายแข็งแรงตัวโตขึ้น แต่จริงๆ แล้วผักโขมมีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า ผักโขม (Amaranth) และผักใบเขียวทั้งสองชนิดนี้ก็เป็นพืชที่อยู่ตระกูลเดียวกันมีประโยชน์เหมือนกันค่ะ ผักปวยเล้งที่มีใบสีเขียวเข้มนี้ได้มีต้นกำเนิดมาจากทางตะวันออกกลางและแถบเปอร์เซียในสมัยโบราณนับพันๆ ปีมาแล้วค่ะ อีกทั้งยังเป็นผักที่ชาวอิหร่านนิยมรับประทานกันมากจนได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “Prince of Vegetables” กันเลยทีเดียว โดยจากชื่อที่นิยมเรียกกันว่าผักปวยเล้งออกเสียงเหมือนภาษาจีน ก็คงจะคิดว่ามีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน แต่ความจริงแล้วการเพาะปลูกผักโขมได้มีการแพร่กระจายไปยังประเทศเนปาล ซึ่งในศตวรรษที่สิบเจ็ดได้นำไปเผยแพร่ที่ประเทศจีนและในขณะนั้นก็ยังคงเรียกกันว่า “เปอร์เซียกรีน” เหตุผลที่มีชื่อว่าผักปวยเล้ง ซึ่งดูเหมือนว่ามาจากประเทศจีน ก็เนื่องจากว่าผักปวยเล้งได้มีการบันทึกชื่อเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ถังจึงได้มีชื่อเป็นภาษาจีนไปโดยปริยายค่ะ นอกจากประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจจากผักปวยเล้งนี้แล้วประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการจากผักปวยเล้งก็ไม่ธรรมดาเลยค่ะ ดังนั้นวันนี้เราเลยอยากนำข้อมูลของประโยชน์ทางสุขภาพจากผักปวยเล้งมาบอกกัน 16 ประโยชน์ต่อสุขภาพจากผักปวยเล้ง (Spinach) 1.ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง การที่ผักปวยเล้งมีปริมาณโพแทสเซียมที่สูงมากอีกทั้งยังมีปริมาณโซเดียมต่ำ จึงส่งผลที่ประโยชน์ต่อผู้ที่ป่วยโรคความดันโลหิตสูง อีกทั้งโฟเลตที่มีอยู่ในผักปวยเล้งยังช่วยลดความดันโลหิตสูงและช่วยผ่อนคลายหลอดเลือดในขณะที่ยังรักษาระดับการไหลเวียนของโลหิตได้ดี จากการลดความดันโลหิตและผ่อนคลายความตึงของหลอดเลือด 2.บำรุงสายตา เนื่องด้วยผักปวยเล้งมีวิตามินเอและสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่เรียกว่าเบต้าแคโรทีนที่สูง จึงไปช่วยสร้างสารโรดอปซินที่ส่งผลดีต่อการมองเห็นในเวลากลางคืนให้ดีขึ้นค่ะ อีกทั้งยังเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระโดยไปต่อต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นซึ่งจะทำลายส่วนต่างๆ ของเซลล์ และทำให้เซลล์แบ่งตัวผิดปกติจนกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้อีกด้วย 3.มีประโยชน์ต่อระบบประสาท ส่วนประกอบของผักปวยเล้ง จำพวก โปแตสเซียม โฟเลต และสารแอนตี้ออกซิแดนท์ต่าง ๆ เป็นประโยชน์ต่อระบบประสาทเมื่อเรารับประทานเป็นประจำสม่ำเสมอ โดยเฉพาะโฟเลตสามารถช่วยบำรุงสมองเพิ่มความจำลดความเสี่ยงของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ อีกทั้งโพแทสเซียมยังเป็นส่วนสำคัญของสมองเช่นกันซึ่งมีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันกับการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดให้เพิ่มขึ้น […]

ผักเคล (Kale) คืออะไรและมีประโยชน์อย่างไร
“ผักเคล” (Kale) อีกหนึ่งชนิดของผักใบสีเขียวเข้มที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสุดยอดของอาหารหรือ Super Food นั่นเองค่ะ ถ้าได้ถูกยกให้ไปอยู่ในลำดับของสุดยอดของอาหารแล้วถือว่าเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง และเชื่อว่ามีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้จักกับผักใบเขียวเข้มชนิดนี้กันมากนัก จึงอยากจะนำข้อมูลรายละเอียดทั้งผักเคลมีความเป็นมาและมีประโยชน์อย่างไรบ้างมานำเสนอกันในวันนี้ค่ะ ด้วยคำที่เราเคยได้ยินมาแต่เด็กๆ ว่า “กินผักแล้วจะได้แข็งแรง” วันนร้เราจะมารู้กันว่ากินผักแล้วจะแข็งแรงยังไง บางคนจะทานผักทีแสนยากเย็นโดยเฉพาะผักที่มีสีเขียวเข้ม ไหนจะบอกว่าเหม็นเขียวบ้าง ขมบ้าง ไม่อร่อยเอาซะเลย แต่ถ้าคุณได้มารู้จักและเห็นคุณค่ากับประโยชน์ที่ได้รับแล้ว ต้องบอกได้เลยว่าคุณค่าทางโภชนาการที่คุณจะได้รับจะต้องทำให้เปลี่ยนใจอย่างแน่นอน ลักษณะของผักเคลจะมีใบที่หยิกสีเขียวเข้มหลายคนเรียก ผักคะน้าใบหยิก ด้วยรสชาติที่คล้ายคลึงกับผักคะน้าแต่ก็ไม่แปลกใจเลยเนื่องจากผักเคลเป็นพืชผักที่อยู่สายพันธุ์เดียวกับผักคะน้า โดยผักเคลเป็นผักที่อยู่ในตระกูลเดียวกันกับกะหล่ำปลีเช่นเดียวกับบล็อคโคลี่ จะเห็นได้ว่าผักที่อยู่ในตระกูลนี้จะมีคุณค่าทางอาหารจะไม่แตกต่างกันมาก ความเป็นมาของผักเคล เมื่อถึงสิ้นยุคกลางได้มีการถูกค้นพบของผักเคลและผักเคลก็เป็นพืชผักสีเขียวเข้มที่เห็นได้ทั่วไปในทวีปยุโรป จริงๆ แล้วพืชผักใบหยิกสายพันธุ์ของกะหล่ำปลีกับผักสายพันธุ์ใบเรียบแบนได้มีอยู่แล้วตั้งแต่ศตวรรษที่สี่ในกรีซ อีกทั้งยังถูกใช้เป็นยารักษาในรูปแบบของอาหารซึ่งใช้เพื่อรักษาโรคลำใส้ ถึงขนาดที่ชาวโรมันได้ขนานนามว่า “Sabellian Kale” โดยผักเคลได้ถูกยกให้เป็นบรรพบุรุษสมัยใหม่ ต่อมาผักเคลได้เข้าไปยังทวีปอเมริกาเหนือโดยอาณานิคมในศตวรรษที่ 16 หลังจากนั้นผักเคลของรัสเซียได้ถูกนำเข้าสู่ประเทศแคนาดาจนเข้าสู่สหรัฐอเมริกาโดยพ่อค้าชาวรัสเซียในศตวรรษที่ 19 และคงไม่ต้องสงสัยเลยว่ามาสมัยนี้คนรักสุขภาพหันมานิยมรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะจาก Super Food อย่างผักเคลที่ส่วนใหญ่จะนำมาปั่นเป็นสมูทตี้แบบ Green Smoothies ดื่มน้ำผักกันให้เห็นทั่วไป ด้วยความเบื่อหน่ายของสุขภาพที่ย่ำแย่ ขับถ่ายไม่ปกติ รู้สึกสุขภาพที่แย่ หลายคนยอมเปลี่ยนการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพนั่นเป็นสิ่งที่ดีและควรเป็นอย่างยิ่ง สมัยนี้มีอาหารมากมายหลายร้อยชนิดให้เลือกรับประทานแต่ถ้าคุณเลือกรับประทานที่ถูกและเหมาะสมต่อร่างกาย รับรองสุขภาพที่ดีไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ ผักเคล (Kale) คืออะไรและมีประโยชน์อย่างไร […]

Vitamin E คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร
วิตามินอี (Vitamin E) เป็นอีกวิตามินหนึ่งที่สาวๆคนไหนก็ต้องรู้จักกันทั้งนั้นและส่วนมากที่เรารู้ๆกันจะเป็นเรื่องในการช่วยลบเลือนรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว ที่เราจะเห็นได้ทั่วไปนั้นตามผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในร้านขายยาหรือร้านขายครีมต่างๆ แต่รู้กันไหมล่ะคะว่าวิตามินอีไม่ได้มีประโยชน์แค่นั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เราคงยังไม่ทราบกัน เพราะฉะนั้นวันนี้ HealthGossip จะมาขอนำเสนอข้อมูลนี้ให้ทราบโดยทั่วกันค่ะ ในเมื่อวิตามินที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพระเอกที่ช่วยปกป้องร่างกายก็คงจะหนีไม่พ้น “วิตามินอี” ซึ่งจากความน่าสนใจในประโยชน์ต่างๆ ดึงดูดให้ผู้บริโภคหลายๆ คนใช้วิตามินอี โดยลืมคำนึงถึงความจำเป็นที่ควรจะได้รับหรือโทษที่อาจเกิดขึ้นเมื่อได้รับมากจนเกินความต้องการของร่างกาย ดังนั้นเราจึงไม่รอช้าที่จะนำข้อมูลทั้งดีและโทษมาบอกให้เข้าใจกันมากขึ้นค่ะ เกี่ยวกับ วิตามินอี หรือ Tocopherol วิตามินอีเป็นวิตามินชนิดละลายในไขมัน (fat soluble vitamin) มีลักษณะเป็นของเหลวคล้ายน้ำมัน สีเหลืองอ่อน ไม่ละลายในน้ำ ละลายได้ในสารละลายไขมัน เช่น แอลกอฮอล์ อีเทอร์ วิตามินอีมีความสำคัญต่อการทำงานของระบบสืบพันธุ์ จึงเรียกชื่อตามความหมาย คือ Tocopherol มาจากภาษากรีก Tokos แปลว่า เด็ก (Children) และ Pheno แปลว่า ทำให้เกิด (to bear) วิตามินอีมีมากในพืชส่วนในสัตว์นั้นพบน้อยมาก การบริโภคผักหรือผลไม้สดจะช่วยเพิ่มปริมาณวิตามินอีที่ร่างกายได้รับได้ นอกจากนี้ยังพบว่าน้ำนมมารดา โดยเฉพาะน้ำนมมารดาหลังคลอด (colostrum) ก็เป็นอีกแหล่งหนึ่งที่ให้วิตามินอีในปริมาณที่สูงมากเช่นกัน อาหารที่ให้วิตามินอี ได้แก่ […]