Omega3

เมล็ดแฟลกซ์คืออะไร มีคุณค่าและประโยชน์อย่างไร
“เมล็ดแฟลกซ์” (Flaxseed) ในบางคนถึงกับเรียกมันว่าเป็นหนึ่งในพืชหรืออาหารจากพืชที่มีคุณค่าและประสิทธิภาพมากที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ ด้วยคุณค่าและคุณประโยชน์ในตัวของเมล็ดแฟลกซ์ ที่เมื่อคุณได้ทราบแล้วคงต้องคิดใหม่หรืออาจนำมาเป็นเมนูเพื่อสุขภาพอีกหนึ่งชนิดไว้ในตัวเลือกเป็นอย่างแน่นอนค่ะ เมล็ดแฟลกซ์ยังเป็นเมล็ดพืชที่แปลกใหม่ทั้งยังไม่เป็นที่นิยมหรือรู้จักกันมากนักในประเทศไทย ในคนที่รักสุขภาพหรือชอบค้นหาอาหารเพื่อสุขภาพมารับประทานอยู่เสมอๆ อาจจะทราบกันดีค่ะ จากข้อมูลของเมล็ดแฟลกซ์ทำให้ตระหนักได้ว่าไม่นำมาบอกกล่าวเล่าสู่กันฟังเห็นทีจะไม่ได้แล้วค่ะ ก็เนื่องจากประโยชน์ของเมล็ดพืชตัวนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ อยากให้ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือเป็นความรู้เกี่ยวกับสุขภาพที่ใครหลายคนอาจกำลังสงสัยหรือกำลังหาข้อมูลนี้อยู่ก็เท่านั้นเองค่ะ เมล็ดแฟลกซ์ (Flaxseed) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า เมล็ดลินิน (Linseed) ซึ่ง เป็นพืชในตระกูล Linum usitatissimum เป็นเมล็ดของต้นปอป่านที่ได้มาจากต้นลินิน โดยได้ทำการนำเอาส่วนที่เป็นเส้นใยลำต้นมาใช้ในการทอผ้าลินินค่ะ โดยลักษณะของเมล็ดลินินนั้นจะมีความคล้ายกันกับงาเพียงแต่ว่ามีขนาดใหญ่กว่าเท่านั้น รวมถึงประโยชน์และรสชาตินั้นก็ยังมีความคล้ายกันกับงาอีกด้วยเช่นกัน ส่วนลักษณะของเมล็ดแฟลกซ์นั้นจะมีขนาดเล็กและมีสีออกน้ำตาล น้ำตาลเข้ม หรือสีทองค่ะ เมล็ดแฟลกซ์นั้นเติบโตในภูมิประเทศที่มีอากาศเย็น โดยถิ่นกำเนิดของพืชชนิดนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแถบบริเวณภาคตะวันออก ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเอเชียตะวันตกและในประเทศอินเดีย เมล็ดแฟลกซ์มีประวัติที่ยาวนานอีกทั้งยังได้รับการบริโภคเป็นอาหารมายาวนานถึงประมาณ 6,000 ปีได้แล้วค่ะ ด้วยสารอาหารและคุณค่าทางโภชนาการที่ล้นทะลักของเจ้าเมล็ดพืชชนิดนี้ จึงมีความเป็นไปได้อย่างมากที่อาจจะถูกยกให้เป็นสุดยอดของอาหารหรือซูปเปอร์ฟู้ดส์ (Super Foods) ระดับโลกค่ะ ซึ่งเมล็ดแฟลกซ์ถือเป็นแหล่งที่มาของพืชที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ชนิดที่เรียกว่า alpha-linolenic acid (ALA) อีกทั้งเมล็ดแฟลกซ์ยังถูกจัดอันดับอาหารที่ยกให้เป็นแหล่งที่มาของสารสำคัญอย่าง ลิกแนน (Lignans) ซึ่งมีมากถึง 7 เท่าเมื่อเทียบกับอาหารประเภทเดียวกันอย่างเช่น งาดำ เป็นต้น โดยประโยชน์ของเมล็ดแฟลกซ์สามารถที่จะช่วยปรับระบบการย่อยอาหาร ทำให้คุณมีผิวพรรณที่สดใส ลดระดับคอเลสเตอรอล […]

เคราติน คืออะไรและมีความสำคัญอย่างไร
ความงามกับผู้หญิงเป็นของคู่กันเสมอ เพื่อให้ตัวเองดูดีและสุขภาพดีนั้นต้องมาจากภายในไปสู่ภายนอกจึงเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าเพียงแต่ดูแลภายนอกอย่างเดียวบางทีก็ไม่เห็นผลได่เต็มที่ ทุกสิ่งทุกอย่างมักมีที่มาที่ไปเสมอ อย่างเช่นการที่เราอายุมากขึ้นผิวหนังก็จะไม่ยืดหยุ่นได้ดีเหมือนครั้งที่ยังอายุน้อย อีกทั้งจะให้ร่างกายสามารถสู้ทนเหมือนเมื่อก่อนก็คงจะยากถ้าหากเราไม่ดูแล เหมือนอย่างวันนี้ที่เราเห็นว่าการดูแลสุขภาพเส้นผมก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สาวๆ หลายคนกังวลใจเนื่องจากยุคสมัยที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลาซึ่งมีการตกแต่งเส้นผมด้วยสารเคมีต่างๆ ไหนจะพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่เราทำเกือบทุกวัน ทำให้เส้นผมเราโดนความร้อนจากการเป่า ไดร์ หนีบอีก ยังรวมไปถึงการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อการบำรุงของเส้นผม ปัจจัยหลายอย่างมากมายที่สามารถทำให้เส้นผมของเราอ่อนแอ เพราะอย่างนี้จึงมีผลิตภัณฑ์มากมายด้วยเช่นกันที่พร้อมใจกันมาให้ทดลองกันนำมาดูแลได้ง่ายดายมากขึ้น อย่างเช่น Keratin หรือ เคราตินที่สาวๆ คงจะคุ้นหูกันดีว่าด้วยช่วยเราในเรื่องของเส้นผม ดังนั้นวันนี้ทาง HealthGossip จึงอยากให้มาทำความเข้าใจและรู้จักกับเคราตินกันให้มากขึ้น ว่ามันคืออะไร มีในส่วนไหนในร่างกายเราหรืออะไรยังไง ไปไขข้อข้องใจและหาคำตอบไปพร้อมๆกันเนอะ เคราติน (Keratin) คืออะไร “เคราติน” ที่เราเข้าใจและเคยได้ยินมาจากคำแนะนำของช่างทำผมร้านประจำ ว่าเป็นสารอาหารที่สำคัญในการล็อคความสวยงามของเส้นผม และให้ความเปล่งประกายของเส้นผมของเราใช่ไหมล่ะคะ จริงๆ แล้วเคราติน (Keratin) คือ เส้นใยผิวหนังชนิดหนึ่งที่อยู่ที่บริเวณหนังกำพร้าของคนเรา เป็นเซลล์ที่ผิวหนังสร้างขึ้นจากเซลเยื่อบุผิวหนังและอัดแน่นเป็นแผ่นบางใสในชั้นนอกสุดเรียกว่า หนังขี้ไคล เคราตินจะช่วยป้องกันการดูดซึมของสารต่างๆเข้าสู่ร่างกาย ลดอันตรายจากรังสีอัลตราไวโอเลต และป้องกันการระเหยของน้ำจากผิวหนัง เคราตินที่มีโครงสร้างประกอบมาจากโปรตีนเส้นใย ทั้งยังเป็นส่วนประกอบหลักของชั้นผิวหนังอย่างที่กล่าวมาข้างต้น โดยทำหน้าที่เป็นตัวประสานเนื้อเยื่อของผิวหนังเข้าด้วยกัน โปรตีนชนิดนี้เป็นส่วนประกอบหลักของเส้นผมถึงร้อยละ 90 รองลงมาคือเส้นขนและเล็บมีเพียงร้อยละ 2 เท่านั้นที่ปะปนอยู่ในเซลล์กล้ามเนื้อ ได้แก่ บริเวณผนังหลอดเลือด เนื้อเยื่อกระจกตาและเลนส์ตา คุณสมบัติของเคราตินคือสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับชั้นเซลล์ผิวหนังและเป็นแหล่ะความชุ่มชื้นของเส้นผม […]

Collagen คืออะไรและมีความสำคัญอย่างไร
วันนี้ HealthGossip เอาความรู้ที่มาพร้อมกับความสวยและความงาม มาเสริฟกันอีกแล้วววว ว เป็นอะไรน่ะหรอ ก็จะอะไรอีกล่ะเนอะยังคงวนเวียน ต้วมเตี้ยมกันอยู่กับความสวยความงามและสุขภาพเหมือนเดิมนั่นเองค่าา และวันนี้ก็จะมาพูดถึง “คอลลาเจน” ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่คอลลาเจนเต็มไปหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นแบบผงชงดื่ม แบบเครื่องดื่มผสมคอลลอเจน ไหนจะเป็นแคปซูลในรูปแบบอาหารเสริมและสมัยนี้ในครีม เครื่องสำอางค์ โลชั่น ลิปสติก หรือแม้แต่ลูกอมขนมต่างๆก็ยังมีคอลลาเจนผสมอีกแน่ะ! และไม่ว่าจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ถ้าขึ้นชื่อว่ามีคอลลาเจน สาวๆจะให้ความสนอกสนใจกันขึ้นมาเลยที่เดียวเชียวเลยใช่ไหมล่ะค่ะ ก็เพราะเรารู้และเข้าใจว่ามันดีและช่วยเรื่องความสวยความงามนั่นเอง แต่เรารู้จักเจ้าคอลลาเจนนี้ดีแค่ไหนกันล่ะ แล้วมันช่วยให้เราสวยขึ้นจริงหรอและมันช่วยเราแค่เรื่องความสวยความงามเท่านั้นเอง? แต่ความเป็นจริงแล้วรู้ไหมคะว่าคอลลาเจนอยู่ในร่างกายของเราเองนี่แหละค่ะแต่ทำไมเราถึงต้องการคอลลาเจนจากที่อื่นมากมายขนาดนั้นล่ะ ้าอย่างนั้นเรามาทำความรู้จักกับเจ้าคอลลาเจนให้มากขึ้นกันดีกว่าเนอะ อย่างน้อยก็เพื่อตัวเราและไหนยังจะสามารถเผื่อแผ่บอกกับคนอื่นได้อีก ก็ไม่ว่านะ ไม่หวง 🙂 ทำไมถึงได้เรียกว่า “คอลลาเจน” คอลลาเจน (Collagen) มาจากภาษากรีก ซึ่งมีความหมายว่า กาว และคอลลาเจนนั้นเองที่ทำหน้าที่เป็นการเชื่อมเซลล์แต่ล่ะเซลล์ในร่างกายเข้าไว้ด้วยกัน คอลลาเจนนั้นอยู่ใต้ผิวหนังที่อยู่ในชั้นผิวหนังแท้ของเราโดยทำหน้าที่เสริมความเรียบตึงของผิวหนัง ทำให้ผิวแข็งแรงและเรียบเนียน คอลลาเจนคืออะไรนะ โดยทั่วไปแล้วสาวๆจะรู้จักกันดีว่าคอลลาเจนนั้นจะช่วยให้ผิวเราเต่งตึง เด้งดึ๋งและกระชับขึ้น เพราะอะไรน่ะหรอ ก็เพราะว่าคอลลาเจนเป็นโปรตีนธรรมชาติที่อยู่ในร่างกายเราเนี่ยแหละค่ะ อีกทั้งคอลลาเจนยังเป็นองค์ประกอบหลักของผิวหนังที่เป็นโปรตีนที่มีความสำคัญอย่างมากอีกด้วยนะ และเจ้าคอลลาเจนไม่เพียงเป็นองค์ประกอบของผิวหนังเท่านั้นนะคะแต่ยังทำหน้าที่เชื่อมเซลล์ทุกๆเซลล์ในร่างกายไว้ด้วยกันเพื่อทำให้เกิดเป็นเนื้อเยื่อ เป็นอวัยวะ และร่างกายที่สมบูรณ์ขึ้นมาได้นั่นเอง ดังนั้นคอลลาเจนจึงมีปริมาณถึง 1 ใน 3 ของโปรตีนในร่างกายเพราะเป็นโครงสร้างในส่วนที่ยืดหยุ่นของร่างกายนั่นเองค่ะ […]

15 มหัศจรรย์ของอาหารที่ช่วยชะลอความแก่
พูดถึงความแก่….ผู้หญิงซะส่วนใหญ่ที่กลัวและเครียดจริงไหมล่ะคะ แต่ก็อย่ากังวลไปเลยค่ะความเครียดนี่แหละตัวดีที่ทำให้เราแก่เร็วขึ้น จะยังไงซะการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ก็เป็นเรื่องธรรมชาติเนอะ คงไม่มีใครหลีกหนีพ้น แต่…เรามีวิธีชะลอความแก่ที่เรากลัวนักกลัวหนามาบอกกันค่ะ และก็ไม่เป็นความลับใดๆทั้งสิ้น แค่ง่ายๆด้วยการหันมาใส่ใจในการเลือกรับประทานอาหารเท่านั้นเอง ไม่ต้องไปเสียเงินมากมายในการเข้าคอร์สทำหน้าหรือซื้อครีมที่ราคาแสนจะแพงกันหรอกค่ะ ว่าแต่ ..แล้วจะต้องรับประทานอาหารอะไรยังไง และอาหารแบบไหนที่จะทำให้แก่ช้า..มีด้วยหรอ? อาหารที่เรารับประทานเข้าไปในแต่ละวันนั้น คุณทานเพื่อดับความหิวกระหาย หรือต้องการลิ้มรสชาติที่แสนอร่อยในราคาที่แสนแพง… ต้องยอมรับนะคะว่าอาหารที่ดีแต่ไม่แพงก็อร่อยส่วนอาหารที่แพงแต่ได้คุณภาพดีเยี่ยมนั่นก็ดีเช่นกัน แต่ถ้าแพงแล้ว รสชาติดีเยี่ยมแล้ว แต่ไม่ได้ให้คุณประโยชน์อะไรเลย นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง เอาล่ะยังไงการเลือกรับประทานอาหารที่ถูกต้องและให้ประโยชน์ต่อร่างกายเราถึงแม้รสชาติจะไม่ถูกปากหรือบางอย่างราคาก็แสนแพง แต่บางทีนั้นเราก็ต้องยอมปรับเปลี่ยนเมนูเพื่อแต่ละวันจะได้รับอาหารที่มีประโยชน์ที่สุด แต่ขอบอกเลยว่าอาหารแต่ละชนิดที่จะมาบอกในวันนี้ นอกจากจะเป็นสิ่งที่เราๆชอบทานกันแล้วยังให้ประโยชน์ล้มหลามเลยแหละค่ะ อาหารแต่ละชนิดคุ้นหูแล้วยังต้านแก่อีกแหน่ะ ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่ความลับ ขยับเข้ามาใกล้ๆ อยู่แค่นี้เอง นี่ไง HealthGossip กำลังบอกคุณว่า ต่อไปนี้เราจะไม่กลัวแก่กันแล้วค่ะ มาดูกันเลยดีกว่าว่าอาหารเหล่านั้นมีอะไรบ้างเอ่ย แท่น แท๊น…. 15 สุดยอดอาหารต้านความแก่ 1.ปลา มีผลการวิจัยว่าการทานปลาเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ ชาวอลาสก้าไม่มีปัญหาเกี่ยวเรื่องโรคหัวใจเลย เพราะพวกเขาทานปลากันกันทุกวัน เนื้อปลาอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นไขมันต่ำที่จำเป็นต่อสมองและการทำงานของหัวใจ สารอาหารจากปลายังช่วยลดความดันโลหิต ลดระดับโคเลสเตอรอล และยังชะลอความแก่ได้อีกด้วย ปลาที่แนะนำก็จะเป็น ปลาแซลมอน สารสีส้มที่ผิวของปลาแซลมอน เป็นสารในกลุ่มคาโรตีน มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ […]

เหตุผลที่คนญี่ปุ่นมีอายุยืนมากที่สุดในโลก
รู้กันหรือเปล่าคะ ว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีพลเมืองที่มีอายุยืนนานมากที่สุดในโลกและญี่ปุ่นก็ได้ครองแชมป์มากว่า 20 ปี สำหรับพลเมืองที่มีอายุเกิน 100 ปี มากกว่า 20,000 คนเลยทีเดียวเชียว และจะพบว่าสุขภาพร่างกายของคนญี่ปุ่นมีคอเลสเตอรอลต่ำ ไม่ค่อยเป็นโรคอ้วนกับโรคหัวใจ ไม่ใช่แค่ใครต่อใครที่อยากรู้เคล็ดลับในการที่ทำอย่างไรให้มีอายุที่ยืนยาวแถมยังมีสุขภาพที่ดีของชาวญี่ปุ่นกันเท่านั้นนะคะ แม้แต่คนไทยเราเองก็ให้ความสนอกสนใจในเรื่องนี้กันไม่น้อยค่ะ ยิ่งช่วงนี้คนไทยเราเริ่มหันมาใส่ใจต่อการรักษาสุขภาพมากขึ้น เลยยิ่งไม่ควรพลาดกับเคล็ดลับนี้ไปทีเดียวเชียวเลยแหละ เพราะอย่างนี้ วันนี้ HealthGossip เลยได้นำเรื่องราวเหล่านี้มาบอกเล่ากันค่ะ (รู้แล้วก็อย่าลืมบอกต่อล่ะ) เคยสังเกตุอยู่หลายครั้งเวลาที่ได้พบเห็นชาวญี่ปุ่นในบ้านเราหรือตามข่าวสารบนโทรทัศน์บ้าง ตามอินเทอร์เน็ตบ้างแหละ และก็เก็บความสงสัยไว้อยู่เหมือนกันว่าทำไมพวกเขาเหล่านั้นถึงมีผิวที่ละเอียดถึงแม้ไม่ได้แต่งหน้าเลยด้วยซ้ำดูมีน้ำมีนวลสวยธรรมชาติให้มายังไงยังงั้นเชียว แม้บางคนจะดูเหมือนอายุมากแล้วก็ตามแต่ก็ยังดูแข็งแรงสุขภาพก็ยังดี็ดีกันอยู่เลย เพราะฉะนั้นเราอย่าเก็บความสงสัยนี้ไว้อีกต่อไปเลย…เราไปล้วงความลับเหล่านี้พร้อมๆกันเลยดีกว่าค่ะ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารญี่ปุ่นชาวอังกฤษคนหนึ่ง ได้ทำสำรวจเกี่ยวกับอายุขัยในพื้นที่ต่าง ๆทั่วโลก เพื่อเทียบวิเคราะห์ถึงเหตุผลและปัจจัยอันเกี่ยวกับอายุขัยที่ยืนยาวของคนญี่ปุ่นว่า เพราะอะไรคนญี่ปุ่นถึงมีคอเลสเตอรอลต่ำ? เพราะอะไรคนญี่ปุ่นถึงมีอัตราการตายจากโรคหัวใจต่ำ? และเพราะอะไรสุขภาพของคนญี่ปุ่นถึงเป็นแบบนี้ได้? และก็ได้พบกับเคล็ดที่ไม่ลับนี้อยู่ที่ ‘’อาหาร’’ ที่คนญี่ปุ่นรับประทานนั่นเองค่ะ ‘’อาหารญี่ปุ่น’’ คือตัวช่วยเสริมสุขภาพของคุณญี่ปุ่นให้ไม่มีปัญหาจากโรคภัยที่กล่าวมาได้ทั้งหมด และอาหารที่ว่าอย่างเช่น ปลาดิบ, ซุปมิโซะ, เต้าหู้, สาหร่ายคอมบุ (จากน้ำอุ่น), สาหร่ายโนริ (จากน้ำเย็น) เป็นต้น อาหารเหล่านี้ล้วนเป็นอาหารที่มีคอเลสเตอรอลต่ำ ปราศจากไขมันอิ่มตัวมีไอโอดีนและแร่ธาตุสูงมาก อีกทั้งยังมีอนุมูลเล็กๆ ที่ช่วยเสริมสุขภาพให้ดีช่วยให้อาหารอร่อยยิ่งขึ้นด้วย และเมื่อเจาะจงข้อมูลลงไปในพื้นที่ประเทศญี่ปุ่น ยังมีสิ่งที่น่าสนใจนั่นคือพบว่า […]

11 สุดยอดอาหารที่ทำให้ผมสวยสุขภาพดี
สาวหลายๆคน นอกจากรูปร่างหน้าตาที่เราต้องดูแลเป็นพิเศษแล้วนั้นเรื่องของเส้นผมหรือการมีผมที่สลวยสวยสุขภาพดีก็เป็นความใฝ่ฝันของผู้หญิงอย่างเราๆกันทั้งนั้น เพราะมันคือเสน่ห์สำคัญอย่างหนึ่งของเราเลยจริงไหมคะ บางคนมีผมที่บาง แห้ง เสีย อ่อนแอ หลุดร่วงง่าย หรือผมไม่มีน้ำหนัก เบาฟูฟ่อง หรือมีปัญหายาวช้าบ้างแหละ แต่ถึงแม้ว่าคุณจะลงทุนไปมากมายกับผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมต่าง ๆ แชมพู คอนดิชั่นเนอร์ มาส์ก อบไอน้ำทุกสัปดาห์ ฯลฯ แต่ถ้ายังพบว่าผมยังคงแห้งและไม่มีชีวิตชีวา การดูแลเส้นผมของเราไม่ใช่แค่สรรหาผลิตภัณฑ์ต่างๆมาเพื่อบำรุงก็บำรุงได้แค่ภายนอกเท่านั้น ไม่ว่าจะใช้ราคาแพงแค่ไหนแล้วคุณจะมั่นใจได้ยังไงว่าไม่มีสารเคมีปนเปื้อน? ยังไงไม่ว่าอะไรก็ตามการที่เราบำรุงจากภายในนั้นย่อมเป็นปัจจัยที่สำคัญและเป็นพื้นฐานของความสวยสู่ภายนอกเสมอ การเลือกรับประทานอาหารยังไงก็ยังเป็นวิธีที่ง่ายและไม่เสียเวลา เพราะฉะนั้นสเต็ปแรกเราควรทราบก่อนว่าเส้นผมของเรานั้นต้องการสารอาหารอะไรบ้าง และหลังจากนั้นเรามาปรับพฤติกรรมการกินของเรากันค่ะ เส้นผม หมายถึง ขนที่งอกปกคลุมหนังศีรษะของมนุษย์ เป็นเคราตินที่ประกอบด้วยกรดอะมิโน และแร่ธาตุ C, H, N, P และ S ผมถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ เส้นผม (hair shaft) เป็นส่วนที่งอกเหนือหนังศีรษะ และรากผม (hair root) เป็นส่วนที่ฝังอยู่ใต้หนังศีรษะ ริคาร์โด วิลา โนวา นักเกศาโลมาวิทยา (Trichologist) หรือผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านเส้นผมและหนังศีรษะ จากร้าน […]

Omega 3 คืออะไรและมีความสำคัญอย่างไร
“โอเมก้า 3” (Omega 3) คืออะไรกันนะ สาวๆหลายคนรวมไปถึงคนที่รักสุขภาพนั้นต่างก็ให้ความสนอกสนใจเกี่ยวกับอาหารที่มีโอเมก้า 3 กันเยอะพอสมควร แต่เราจะรู้ดีแค่ไหนกันนะว่าเจ้าโอเมก้า 3 มันมีบทบาทและความสำคัญอย่างไร ดีต่อสุขภาพของเราแค่ไหนช่วยอะไรบ้างต่อร่างกายของเรา มีอีกหลายคนเลยล่ะค่ะที่ยังไม่ค่อยรู้และเข้าใจเกี่ยวกับเจ้าโอเมก้า 3 กันมากนักรู้ก็แค่ว่ามันคือกรดไขมันอย่างหนึ่งและมีประโยชน์ แต่ไม่ใช่แค่มีประโยชน์เท่านั้นนะคะมันยังมีความสำคัญอย่างที่ร่างกายของเรานั้นในขนาดที่ขาดไม่ได้เช่นกัน ถ้าเรารู้จักกับเจ้าโอเมก้า 3 กันสักนิดเราก็จะได้ทั้งความรู้ สุขภาพที่ดีและความสวยเพิ่มขึ้นอีกค่ะ อยากรู้แล้วล่ะสิว่าทำให้สวยขึ้นได้ด้วยหรอแล้วจะได้ยังไงกันนั้น วันนี้ HealthGossip มีคำตอบค่ะและอาจจะทำให้สาวๆมีความเข้าใจกับเจ้าโอเมก้า 3 มากขึ้นอีกด้วยนะคะ และหลังจากนี้เวลาเดินไป supermarket จะได้เลือกชนิดของอาหารที่มีส่วนผสมของโอเมก้า 3 ได้ถูกและสร้างสรรค์เมนูสุขภาพให้แก่ตนเองและคนที่เรารักได้รับประทานกันค่ะ….. งั้นก่อนอื่นเลยเรามารู้จักกับ ไขมัน กันก่อนเลยค่ะ ทราบกันหรือไม่ว่าไขมันที่มีอยู่ในอาหารนั้นมีส่วนประกอบของกรดไขมัน (fatty acid) มีธาตุคาร์บอน ธาตุไฮโดรเจน และธาตุออกซิเจน เรียงจับกันในลักษณะต่างๆ สามารถแบ่งตามโครงสร้างทางเคมี ได้ดังนี้ ไขมันอิ่มตัว (Saturated fatty acid) คือไขมันที่มีโครงสร้างคาร์บอนเรียงจับกันครบไขมันชนิดนี้ร่างกายสามารถสร้างได้เองถ้ารับประทานมากเกินไปจะทำให้เกิดคอเลสเตอรอลในเลือดสูงเกิดการอุดตันของเส้นเลือดเป็นต้นเหตุของโรคหัวใจขาดเลือด ไขมันไม่อิ่มตัว (Unsatuarated fatty acid) คือไขมันที่ธาตุคาร์บอนยังมี เหลือสามารถจับกับธาตุไฮโดรเจนได้ แบ่งออกเป็น […]