Browse Tag: sea weeds

ไอโอดีน คืออะไรและมีความสำคัญอย่างไร

seafood-1
Source: Flickr (click image for link)

ไอโอดีน (iodine) หรือ สารไอโอดีน ถ้าพูดถึงไอโอดีนหรือสารไอโอดีนก็คงจะนึกถึงความเค็ม หรือเกลือกันใช่ไหมล่ะคะ ไอโอดีนเป็นอีกตัวหนึ่งที่อยู่ในหมู่เกลือแร่หรือแร่ธาตุ บางคนก็อย่าได้คิดว่าแร่ธาตุตัวนี้จะไม่สำคัญนะคะ เพราะถ้าเราขาดมันขึ้นมาล่ะก็…ไม่เป็นผลดีแน่ๆค่ะ เอาล่ะ วันนี้จะมาบอกให้เราเข้าใจเกลือแร่ตัวนี้กันว่ามันคืออะไรและมีความสำคัญอย่างไรค่ะ ไอโอดีนหรือสารไอโอดีน นั้นเป็นธาตุเคมีที่เกิดขึ้นเองในธรรมชาติแต่จะมีปริมาณน้อย เช่นอยู่ในทะเล และแน่นอนว่าเราคงจะไม่มานั่งดื่มน้ำทะเลเพื่อให้ได้สารไอโอดีนกันหรอกจริงไหม มันก็ต้องอยู่ในอาหารทะเลที่เรารับประทานกันทุกวันนี่ล่ะค่ะ ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่าคนที่อยู่แถบภาคเหนือและอีสานจะเป็นโรคคอพอกและเอ๋อ ปัญญาอ่อนกันเป็นส่วนมากเนื่องจากเป็นที่ราบสูงอยู่ห่างไกลจากทะเล จึงไม่มีโอกาสได้รับประทานอาหารทะเลบ่อยๆ ไอโอดีนจะพบมากในสัตว์และพืชในทะเลเนื่องจากมีสารไอโอดีนอยู่สูง ซึ่งสารไอโอดีนนี้เป็นธาตุที่จําเป็นต่อร่างกายถึงแม้ว่าจะต้องการเพียงเล็กน้อยแต่ก็ขาดไม่ได้เช่นกันค่ะ เนื่องจากความสําคัญของไอโอดีนต่อร่างกาย เป็นส่วนประกอบที่จําเป็นในการผลิตฮอร์โมนของต่อมธัยรอยด์ซึ่งต่อมธัยรอยด์นั้นจําเป็นต้องใช้ไอโอดีนเพื่อสร้างฮอร์โมน ชื่อว่า “ธัยรอกซิน” ซึ่งฮอร์โมนนี้จําเป็นสําหรับควบคุมการทําหน้าที่และเสริมสร้างการเจริญเติบโตตามปกติของสมองประสาทและเนื้อเยื่อของร่างกาย

ภาวะขาดไอโอดีน

  1. ภาวะขาดไอโอดีนยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของโลก ประมาณว่าประชากรกว่าพันล้านคน โดยเฉพาะประเทศที่กำลังพัฒนาประสบปัญหานี้ นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดภาวะปัญญาอ่อน ในประเทศไทยภาวะขาดไอโอดีนพบในที่ห่างไกลทะเล ในหมู่บ้านยากจนในแถบถิ่นภูเขา บางแห่งเกิดคอพอกจากภาวะขาดไอโอดีนกันเกือบทั้งหมู่บ้าน การแก้ไขปัญหาภาวะขาดไอโอดีนยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจ และสังคม จากการวิเคราะห์ดินที่จังหวัดแพร่ ซึ่งเป็นถิ่นของโรคเมื่อเทียบกับดินที่กรุงเทพ พบว่ามีไอโอดีนน้อยกว่าถึง 7 เท่า
  2. การกำหนดความรุนแรงของภาวะขาดไอโอดีน จะถือว่าขาดเล็กน้อยเมื่อผู้นั้นได้รับไอโอดีนระหว่าง 50-100 ไมโครกรัมต่อวัน สำหรับขาดปานกลางเมื่อผู้นั้นได้รับไอโอดีนระหว่าง 25-50 ไมโครกรัม และจะถือว่าขาดรุนแรงเมื่อได้รับไอโอดีนน้อยกว่า 25 ไมโครกรัมต่อวัน

 

เกี่ยวกับไอโอดีน (iodine) หรือ สารไอโอดีน

  • ไอโอดีน เป็นธาตุเคมีที่เกิดขึ้นเองในธรรมชาติแต่จะมีปริมาณน้อย
  • ไอโอดีน เป็นสารที่พบมากในเนื้อสัตว์และพืชในทะเล เช่น  อาหารทะเล สาหร่ายทะเล นอกจากนี้ยังได้สารไอโอดีนจากเกลือทะเลอีกด้วย
  • ไอโอดีน เป็นส่วนประกอบที่จําเป็นในการผลิตฮอร์โมนของต่อมธัยรอยด์
  • ไอโอดีน ต่อมไทรอยด์นำไอโอดีนเป็นส่วนสำคัญในการสังเคราะห์ฮอร์โมน
  • ไอโอดีน ความต้องการไอโอดีนที่แนะนำต่อวันคือ 150 ไมโครกรัมต่อวันในผู้ใหญ่ และ 200 ไมโครกรัมต่อวัน ในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ และให้นมบุตร
  • ไอโอดีน ในเกลือต้องมีไอโอดีนอย่างน้อย 30 พีพีเอ็ม คือ เกลือหนัก 1 กรัม มีไอโอดีนอยู่ 30 ไมโครกรัมนั่นเอง
  • ไอโอดีน ผลจากการขาดสารไอโอดีน หญิงแท้งง่าย ชายเซ็กส์เสื่อม เด็กพิการแต่กำเนิด ในผู้ใหญ่ คอพอก เอ๋อ ปัญญาอ่อน
  • ไอโอดีน เป็นธาตุที่ระเหยเป็นไอได้ เมื่อไอโอดีน จากทะเลระเหยมาพร้อมกับน้ำเป็นเมฆและฝนตกลงสู่พื้นดิน พื้นดินจะกลับมีไอโอดีนอีกครั้ง
  • ไอโอดีน กระตุ้นให้มีการหลั่งน้ำนมมากขึ้น
  • ไอโอดีน เด็กที่เกิดจากแม่ที่มีปัญหาไทรอยด์มักมีไอคิวต่ำกว่า 85
  • ไอโอดีน แม้ว่าร่างกายต้องการสารไอโอดีนเพียงแค่ 150 ไมโครกรัมเท่านั้น แต่ก็ขาดไม่ได้แม้แต่วันเดียว เพราะร่างกายไม่สามารถสะสมไว้ได้

 

 

ประโยชน์ของไอโอดีน (iodine)

 

ช่วยในการทำงาน และเจริญเติบโตของต่อมไทรอยด์  และเป็นส่วนประกอบของฮอร์โมนไทรอกซิน ผลิตโดยต่อมไทรอยด์ มีหน้าที่ควบคุมอัตราเมแทบอลิซึมของร่างกาย การทำงานของต่อมธัยรอยด์มีผลต่อสภาพจิตใจ สภาพของผม ผิวหนัง เล็บ และ ฟัน ของร่างกาย การเปลี่ยนของแคโรทีนเป็นวิตามินเอ การสังเคราะห์ โปรตีน โดย ไรโบโซม และการดูดซึมน้ำตาลจากลำไส้เล็กทั้งหมดนี้จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อการผลิตไทรอกซิน เป็นไปตามปกติ การสังเคราะห์โคเลสเตอรอลถูกกระตุ้นโดยระดับของไทรอกซิน

 

ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต และกระตุ้นอัตราการเผาผลาญ โดยช่วยร่างกายเผาผลาญไขมันที่มาก

 

กระตุ้นให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้น

 

ช่วยให้ร่างกายผลิตพลังงานได้ตามปกติ

 

เพิ่มการเคลื่อนย้ายแคลเซียม และฟอสฟอรัสจากกระดูก

 

ช่วยในการขับถ่ายปัสสาวะและควบคุมการกระจายของน้ำตามอวัยวะต่างๆ

 

กระตุ้นให้มีการหลั่งน้ำนมมากขึ้น

 

ควบคุมประสาท ให้มีกำลังคล่องแคล่ว กระฉับกระเฉง ตลอดถึงการพูด ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับความมีประสิทธิภาพของต่อมไทรอยด์

 

 

ปริมาณของไอโอดีนที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน

หากขาดสารไอโอดีน จะมีภาวะผิดปกติแตกต่างกันไป เช่น ช่วงทารกในครรภ์ถึงแรกเกิดจะทำให้เกิดการแท้งหรือตายก่อนกำหนดได้ง่าย หรือหากไม่ตาย คลอดออกมาทารกก็จะพิการแต่กำเนิด คือ หูหนวก ขาแข็ง กระตุก ตาเหล่ รูปร่างแคระแกร็น และสติปัญญาเสื่อมจนถึงปัญญาอ่อน หรือที่เรียกว่าเป็นเอ๋อ ส่วนวัยเด็กถึงวัยรุ่นร่างกายจะเจริญเติบโตช้า สติปัญญาด้อยลงกว่าคนปกติและมีอาการคอพอก ขณะที่วัยผู้ใหญ่จะมีอาการคอพอก เหนื่อยง่าย ไม่สดชื่น สมรรถนะในการทำงานลดลง ร่างกายและจิตใจเสื่อมถอย หากเป็นเพศชายจะมีอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ สำหรับผู้หญิงประจำเดือนอาจมาไม่ปกติ

ในร่างกายปกติ ระดับของไอโอดีนในเลือดจะมีค่าประมาณ 8-15 ไมโครกรัม/100 มิลลิลิตร และจับกับพลาสม่าโปรตีนอยู่ประมาณ 6-8 ไมโครกรัม/100 มิลลิลิตร ข้อกำหนดสารอาหารควรรับประทานไอโอดีนให้ได้วันละ 150 ไมโครกรัมต่อวัน แต่ถ้ารับประทานเพียงวันละ 50 ไมโครกรัม ก็สามารถที่จะป้องกันโรคคอพอกได้แล้ว

ในประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายที่จะให้มีเกลือเสริมไอโอดีนจำหน่ายและกระจายทั่วประเทศ โดยที่เกลือต้องมีไอโอดีนอย่างน้อย 30 พีพีเอ็ม ซึ่งหมายถึง เกลือล้านส่วนจะมีไอโอดีนอยู่ 30 ส่วน ถ้าแปรผลในรูปของน้ำหนัก หมายถึงเกลือหนัก 1 กรัม มีไอโอดีนอยู่ 30 ไมโครกรัมนั่นเอง ดังนั้น ถ้าวันหนึ่งเรารับประทานเกลือ(เสริมไอโอดีน)โดยเฉลี่ย 2 กรัมจะได้รับไอโอดีนวันละ 60 ไมโครกรัม ซึ่งพอเพียงที่จะป้องกันการเกิดโรคจากการขาดไอโอดีนหรือโรคคอพอกได้

 

www.flickr.com/photos/nanophoto69/5015992000/

เหตุผลที่คนญี่ปุ่นมีอายุยืนมากที่สุดในโลก

old -lady-1
Source: Flickr (click image for link)

รู้กันหรือเปล่าคะ ว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีพลเมืองที่มีอายุยืนนานมากที่สุดในโลกและญี่ปุ่นก็ได้ครองแชมป์มากว่า 20 ปี สำหรับพลเมืองที่มีอายุเกิน 100 ปี มากกว่า 20,000 คนเลยทีเดียวเชียว และจะพบว่าสุขภาพร่างกายของคนญี่ปุ่นมีคอเลสเตอรอลต่ำ ไม่ค่อยเป็นโรคอ้วนกับโรคหัวใจ ไม่ใช่แค่ใครต่อใครที่อยากรู้เคล็ดลับในการที่ทำอย่างไรให้มีอายุที่ยืนยาวแถมยังมีสุขภาพที่ดีของชาวญี่ปุ่นกันเท่านั้นนะคะ แม้แต่คนไทยเราเองก็ให้ความสนอกสนใจในเรื่องนี้กันไม่น้อยค่ะ ยิ่งช่วงนี้คนไทยเราเริ่มหันมาใส่ใจต่อการรักษาสุขภาพมากขึ้น เลยยิ่งไม่ควรพลาดกับเคล็ดลับนี้ไปทีเดียวเชียวเลยแหละ เพราะอย่างนี้ วันนี้ HealthGossip เลยได้นำเรื่องราวเหล่านี้มาบอกเล่ากันค่ะ (รู้แล้วก็อย่าลืมบอกต่อล่ะ) เคยสังเกตุอยู่หลายครั้งเวลาที่ได้พบเห็นชาวญี่ปุ่นในบ้านเราหรือตามข่าวสารบนโทรทัศน์บ้าง ตามอินเทอร์เน็ตบ้างแหละ และก็เก็บความสงสัยไว้อยู่เหมือนกันว่าทำไมพวกเขาเหล่านั้นถึงมีผิวที่ละเอียดถึงแม้ไม่ได้แต่งหน้าเลยด้วยซ้ำดูมีน้ำมีนวลสวยธรรมชาติให้มายังไงยังงั้นเชียว แม้บางคนจะดูเหมือนอายุมากแล้วก็ตามแต่ก็ยังดูแข็งแรงสุขภาพก็ยังดี็ดีกันอยู่เลย เพราะฉะนั้นเราอย่าเก็บความสงสัยนี้ไว้อีกต่อไปเลย…เราไปล้วงความลับเหล่านี้พร้อมๆกันเลยดีกว่าค่ะ

ผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารญี่ปุ่นชาวอังกฤษคนหนึ่ง ได้ทำสำรวจเกี่ยวกับอายุขัยในพื้นที่ต่าง ๆทั่วโลก เพื่อเทียบวิเคราะห์ถึงเหตุผลและปัจจัยอันเกี่ยวกับอายุขัยที่ยืนยาวของคนญี่ปุ่นว่า

  • เพราะอะไรคนญี่ปุ่นถึงมีคอเลสเตอรอลต่ำ?
  • เพราะอะไรคนญี่ปุ่นถึงมีอัตราการตายจากโรคหัวใจต่ำ?
  • และเพราะอะไรสุขภาพของคนญี่ปุ่นถึงเป็นแบบนี้ได้?

 

และก็ได้พบกับเคล็ดที่ไม่ลับนี้อยู่ที่  ‘’อาหาร’’ ที่คนญี่ปุ่นรับประทานนั่นเองค่ะ   

‘’อาหารญี่ปุ่น’’ คือตัวช่วยเสริมสุขภาพของคุณญี่ปุ่นให้ไม่มีปัญหาจากโรคภัยที่กล่าวมาได้ทั้งหมด และอาหารที่ว่าอย่างเช่น ปลาดิบ, ซุปมิโซะ, เต้าหู้, สาหร่ายคอมบุ (จากน้ำอุ่น), สาหร่ายโนริ (จากน้ำเย็น) เป็นต้น อาหารเหล่านี้ล้วนเป็นอาหารที่มีคอเลสเตอรอลต่ำ ปราศจากไขมันอิ่มตัวมีไอโอดีนและแร่ธาตุสูงมาก อีกทั้งยังมีอนุมูลเล็กๆ ที่ช่วยเสริมสุขภาพให้ดีช่วยให้อาหารอร่อยยิ่งขึ้นด้วย และเมื่อเจาะจงข้อมูลลงไปในพื้นที่ประเทศญี่ปุ่น ยังมีสิ่งที่น่าสนใจนั่นคือพบว่า คนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่บนเกาะโอกินาวา อัตราการเสียชีวิตจากภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน โรคมะเร็ง และโรคหัวใจ น้อยกว่าส่วนอื่นในพื้นที่ของประเทศญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก เพราะอะไรน่ะหรอ ก็เพราะว่า ชาวโอกานาวามีการบริโภคน้ำตาล 25% เกลือ 20% รับประทานผักเป็น 3 เท่า รับประทานปลามากกว่าเป็น 2 เท่า โดยเฉพาะปลาทะเลน้ำลึกซึ่งมีโอเมก้า 3 ที่สำคัญต่อโครงสร้างการทำงานของสมองเสริมสร้างระบบประสาท ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรเอธิลกลีเซอรอลในพลาสมา ควบคุมระดับไลโปโปรตีนและมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงหน้าองค์ประกอบของเกล็ดเลือดที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคทางเดินหายใจ โรคไขมันในเส้นเลือดและโรคหัวใจทั้งยังช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ โรคหัวใจ ยังยับยั้งเซลล์มะเร็งและโรคไขข้ออักเสบได้ด้วยค่ะ คนอายุ 100 ปีนั้นก็มีทั่วไปในญี่ปุ่น แต่ที่มีหนาแน่นก็คือที่เกาะโอกินาวาทางตอนใต้ของญี่ปุ่น เกาะนี้อยู่ห่างจากฝั่ง 360ไมล์ ห่างจากกรุงโตเกียว 1,000ไมล์ ภูมิอากาศอบอุ่น มีชายหาดยาวตลอด ปกคลุมไปด้วยต้นปาล์ม และด้วยความน่าสนใจอยู่ตรงที่พบว่าคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ที่เมืองโอกินาวาส่วนมากนั้นอายุยืนและสุขภาพดีดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นจึงได้ให้ทุนเพื่อศึกษาเรื่องคนร้อยปี เพื่อที่จะได้ทราบถึงปัจจัยที่ทำให้คนอายุยืน โดยมี ดร.มาโกโตะ ซูซูกิ (Makoto Suzuki) ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์ชุมชน มหาวิทยาลัยริวกิว โอกินาวา และผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาคนร้อยปี ของมหาวิทยาลัยโอกินาวา (Okinawa Cetenarian Study, www.okicent.org) ร่วมวิจัยกับทีมของ ดร.เบรดลี่ วิลค็อก และ ดร.เคร็ก วิลค็อก แพทย์ชาวแคนาดา พี่น้องฝาแฝด ซึ่งได้รับทุนจากกระทรวงสาธารณสุขสหรัฐอเมริกา เพื่อร่วมวิจัยในโครงการศึกษาคนร้อยปีที่โอกินาวา

 

โครงการนี้เป็นการศึกษาวิจัยต่อเนื่องตั้งแต่ปี ค.ศ. 1977 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 36 ปี ทำให้ได้ทราบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในด้านต่างๆจำนวนมาก ดังนี้

  1. ปัจจัยด้านพันธุกรรม พบว่า คนร้อยปีชาวโอกินาวา ก็มีลูกหลาน หรือพ่อแม่ของเขาก็มีอายุยืนด้วยเหมือนกัน ปัจจัยทางกรรมพันธุ์จึงมีผลให้อายุยืน ร้อยละ 25  นอกจากนั้น เป็นเรื่องของการใช้ชีวิต ร้อยละ 75 เช่น อาหาร การออกกำลังกาย ด้านสังคม ด้านการเกื้อกูลทางจิตใจก็มีส่วนทำให้คนโอกินาวาอายุยืน
  2. อาหารของชาวโอกินาวา จำพวกพืชผักผลไม้ เช่น หัวไช้เท้า กระเทียม ต้นหอม กล่ำปลี ขมิ้น มะเขือเทศ เครื่องเทศ เป็นต้น รวมทั้ง เต้าหู้ เห็ด ข้าวไม่ขัดขาว เผือก มันฝรั่ง ถั่ว สาหร่ายทะเล ปลาทะเล และเนื้อแดงไม่มากคนโอกินาวายึดถือหลักที่เรียกว่า “ฮาระ ฮาจิ บุ” คือ กินแค่อิ่มก็พอ ส่วนใหญ่เขาจะปลูกพืชผักผลไม้กินเอง ดื่มชา ดื่มสาเกผสมสมุนไพร อาหารเหล่านี้ให้พลังงานต่ำ เมื่อเจาะเลือดตรวจดูพบว่า คนที่นี่มีสารอนุมูลอิสระในเลือดค่อนข้างต่ำ
  3. คนโอกินาวาเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง โรคอัมพฤกษ์อัมพาต ในอัตราที่ต่ำ และมีไขมันในเลือดต่ำมาก เมื่อเทียบกับคนในโลกตะวันตกนอกจากนั้นโรคสมองเสื่อม ความจำเสื่อม หรือกระดูกบาง และกระดูกสะโพกหักในคนสูงอายุ ก็พบน้อย
  4. คนโอกินาวามีรูปร่างผอมบาง ดัชนีมวลกายอยู่ระหว่าง 18-22 ซึ่งถือว่าน้อย เพราะพวกเขากินอาหารพลังงานต่ำจำนวนน้อย และทำงานในอาชีพตลอดชีวิต มีการเคลื่อนไหว เดินออกกำลังกายในตอนเช้า ไม่ค่อยอยู่บ้านเฉยๆ อันนี้เป็นจุดเด่น
  5. คนโอกินาวาจะทำสวนผักผลไม้ไว้กินเอง การทำสวนทำให้เขาได้ออกกำลังกาย ได้รับแสงแดดซึ่งให้วิตามินดี ทำให้กระดูกไม่บาง ไม่หักง่าย พวกเขามีผักผลไม้ไว้รับประทาน ช่วยให้ได้วิตามิน เกลือแร่ สารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ ป้องกันมะเร็ง
  6. สตรีสูงอายุที่นี่ มีอาการในวัยทองต่ำ อาจจะเนื่องจากกินอาหารพวกเต้าหู้ ผักผลไม้ ถั่ว ซึ่งทำให้ได้รับฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งมีอยู่สูงในสารอาหารเหล่านี้

       เมื่อเจาะเลือดพบว่า ชาวโอกินาวาสูงอายุมีฮอร์โมนเพศหญิง เพศชาย และ DHEA มากกว่าชาวอเมริกัน ฮอร์โมนเหล่านี้ช่วยให้แก่ช้าลง กล้ามเนื้อมีกำลัง ไม่ลีบ ผมไม่หงอกเร็ว ไม่เสื่อมสมรรถภาพทางเพศเร็ว ผิวหนังไม่เหี่ยวเร็ว เสียงไม่แหบ สุภาพสตรีที่เกาะแห่งนี้มีการออกกำลังกายแบบพื้นเมือง เช่น เต้นรำ การฝึกวิชาต่อสู้ป้องกันตนเองแบบดั้งเดิม ทำสวน เดินเล่น เป็นประจำ อันนี้ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง คนร้อยปีที่โอกินาวาร้อยละ 90 เป็นเพศหญิง สามารถช่วยตนเองได้ ในการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันร่างกายยังเคลื่อนไหวได้ อีกทั้งยังพบว่าเครื่องดื่มประเภทหลักที่ชาวญี่ปุ่นชอบดื่มกันและมีสรรพคุณมากมายที่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ชาวญี่ปุ่นมีสุขภาพที่ดีนั่นก็คือ “ชาเขียว” นั่นเองค่ะ น้ำชาโดยเฉพาะชาเขียวเป็นเครื่องดื่มที่ชาวญี่ปุ่นนิยมดื่มกันเป็นประจำเพราะภูมิของประเทศญี่ปุ่นค่อนข้างมีอากาศที่หนาว จึงนิยมดื่มชาร้อนๆเพื่อเพิ่มอุณหภูมิในร่างกายให้อุ่นขึ้นอยู่เสมอและในชาเขียวยังมีสารต้านอนุมูลอิสระมากมายที่สำคัญเชียวแหละค่ะ อย่างเช่น มีงานวิจัยชี้ให้เห็นว่า ชาเขียวนั้นช่วยลดเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ การวิจัยเมื่อปี 1997 ของมหาวิทยาลัยแคนซัส ได้สรุปว่าสาร EGCG ที่อยู่ในชาเขียวนั้นมีฤทธิ์แรงเท่ากับ Resveratrol ที่อยู่ในไวน์แดงถึงเกือบ 2 เท่า ซึ่งเป็นการอธิบายว่า ทำไมชาวญี่ปุ่นจึงมีอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจค่อนข้างต่ำ แม้ว่ามากกว่า 75% ของชาวญี่ปุ่นจะสูบบุหรี่ก็ตาม แล้วทำไมชาวฝรั่งเศสจึงมีอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจน้อยกว่าชาวอเมริกัน ทั้ง ๆ ที่บริโภคอาหารที่มีไขมันสูงเช่นกัน สาเหตุก็เป็นเพราะชาวฝรั่งเศสชอบดื่มไวน์แดง ซึ่งมีสาร Resveratrol ที่เป็นโพลีฟีนอล ที่ช่วยลดอันตรายจากการสูบบุหรี่และรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงนั่นเองค่ะ

 

 อย่างนี้เราก็ได้ทราบกันแล้วนะคะว่า ปัจจัยหลักของเคล็ดลับในการมีสุขภาพที่ดีนั้นอยู่ที่การดำเนินชีวิตในแต่ละวันและ “อาหาร” นั้นก็เป็นส่วนสำคัญของการมีสุขภาพที่ดีนั่นเองค่ะ เราเลือกไม่ได้ถ้าต้องการมีพันธุกรรมที่ดีเพื่อเป็นปัจจัยในการมีอายุยืนแต่การที่เราเลือกดูแลสุขภาพโดยการเลือกรับประทารอาหารที่ดีและเหมาะสมต่อร่างกายมันก็เป็นสิ่งที่ง่ายและเราเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ ในประเทศไทยก็มีอาหารที่กล่าวมาข้างต้นที่เราสามารถหามารับประทานได้ มีผักและผลไม้มากมายให้เลือกรับประทาน ส่วนอาหารทะเลที่เป็นปลาและมีโอเมก้า 3 นั้น ในส่วนของประเทศไทยเรานั้นก็มีปลาน้ำจืดหลายชนิดที่มีโอเมก้า 3 ไม่แพ้กันค่ะ ถ้าอยากทราบว่ามีอะไรบ้างเราบอกไว้ในกระทู้ Omega 3 เรียบร้อยแล้วค่ะ

  

www.flickr.com/photos/scion02b/3772399096/