Arnica Montana คืออะไรและมีประโยชน์อย่างไร
ARNICA MONTANA
วันนี้มีตัวพืชสมุนไพรหนึ่งตัวที่น่าสนใจและอยากจะนำข้อมูลมาเสนอให้รู้จักกันค่ะ ซึ่งในประเทศไทยเราอาจจะยังไม่ค่อยรู้จักกันมากนัก ส่วนใหญ่จะรู้จักกันในหมู่เวชสำอางค์ ตัวยาหรือครีมในด้านศัลยกรรมกัน เห็นว่าประโยชน์จากพืชสมุนไพรตัวนี้น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยอยากจะนำเอาข้อมูลมาให้ทำความรู้จักกันมากขึ้นค่ะ และพืชสมุนไพรตัวนี้มีชื่อว่า “Arnica Montana” หรือในบางประเทศก็จะเรียกว่า “the mountain daisy” ค่ะ เป็นพืชพื้นเมืองที่มีถิ่นกำเนิดในแถบเทือกเขายุโรปตะวันตก อเมริกาเหนือและเอเชีย ซึ่งเจ้าพืช Arnica นี้มีลักษณะเป็นดอกสีเหลือง และก็เป็นพืชอยู่ในตระกูลดอกทานตะวัน (Asteraceae) คำว่า“Arnica”นั้นมาจากภาษากรีกมีความหมายว่าลูกแกะ ซึ่งสื่อความหมายถึงความอ่อนนุ่มและอ่อนโยนนั่นเองค่ะ
เกี่ยวกับ Arnica Montana
- Arnica Montana ดอกสีเหลืองนี้มีสรรพคุณในการฆ่าเชื้อโรคและช่วยการฟื้นฟูของเนื้อเยื่อ Arnica เป็นที่นิยมสำหรับบรรเทาอาการปวดที่เกิดจากรอยฟกช้ำหรืออักเสบ นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระ anti-aging และช่วยลดอาการบวมอีกด้วย
- Arnica Montana ตัวนี้ได้ถูกนำมาใช้เป็นยาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 แล้วค่ะ โดยคนสมัยก่อนมักจะใช้ Arnica เป็นยาทาสำหรับคลายกล้ามเนื้อแก้เคล็ดขัดยอก รอยฟกช้ำ โรคข้ออักเสบ แก้สิว ปากแห้งลอก แม้กระทั่งแมลงกัดต่อยอีกด้วยนะคะ เนื่องจากเจ้าตัวArnica นี้มีสารที่ทรงประสิทธิภาพอย่างยิ่งในการลดรอยบวมช้ำจากการบาดเจ็บของผิวหนังและยังช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นอีกด้วยค่ะ
- Arnica Montana ยังได้รับความนิยมอย่างมากในแถบยุโรป โดยมักถูกใช้เป็นส่วนประกอบหลักของผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบรรเทาอาการบวมแดง ฟกช้ำ เคล็ดขัดยอก ซึ่งมีหลายรูปแบบให้เลือกตามลักษณะการใช้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบครีม เจล หรือโลชั่น พร้อมผลการวิจัยรับรองจากประเทศเยอรมันและสหรัฐอเมริกา
- Arnica Montana โดยในต่างประเทศนั้น Arnica จะเหมาะกับผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมเป็นอย่างมาก อีกทั้งศัลยแพทย์ส่วนใหญ่ยังแนะนำให้คนไข้ใช้ผลิตภัณฑ์จาก Arnica ไม่ว่าจะเป็นศัลยกรรมขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก ทำตา ทำจมูก ยกกระชับใบหน้าหรือแม้แต่การทำ Botox, Filler รวมทั้งร้อยไหมที่ไม่ได้ผ่านการผ่าตัดอีกด้วยค่ะ เนื่องจากจะช่วยลดอาการบวมแดง และรอยเขียวช้ำจากการทำศัลยกรรมได้อย่างดีและอ่อนโยน
- Arnica Montana อยู่ในรายชื่อพืชที่อนุญาตให้ผสมในอาหารได้ของ Council of Europe category N2 ซึ่ง cetegory บ่งบอกได้ว่าสามารถใช้ใส่ลงไปในอาหารได้ในปริมาณน้อย ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ก็เคยถูกองค์การอาหารและยาของอเมริการะบุว่าเป็นสมุนไพรที่ไม่ปลอดภัย และจะใส่เข้าไปได้ในอาหารกลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น
เราจะเห็นได้ว่าพืชสมุนไพร Arnica Montana ตัวนี้ ดูมีความโดดเด่นและมีประโยชน์มากมายแต่ถึงยังไงก็ไม่ควรกลืนกินเข้าทางปาก ยกเว้นในรูปของการเตรียมเป็นยาแบบโฮมีโอพาธีย์สำหรับการใช้ภายนอก ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ในบางคน และไม่ควรทาในบริเวณผิวหนังที่มีบาดแผล ถ้าหากทาไปแล้วมีอาการแพ้ให้หยุดทาต่อทันที
อาการผื่นแพ้แบบรุนแรงอาจเกิดได้ในการใช้รูปแบบ tincture มาทาผิวหนัง
ในหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตรนั้นยังไม่มีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับการใช้ Arnica
www.flickr.com/photos/rveldwijk/3597816570/
www.flickr.com/photos/42244964@N03/3938364127/
Leave a Reply