Browse Tag: สุขภาพผม

15 มหัศจรรย์ของอาหารที่ช่วยชะลอความแก่

morning-foods-1
Source: Flickr (click image for link)

พูดถึงความแก่….ผู้หญิงซะส่วนใหญ่ที่กลัวและเครียดจริงไหมล่ะคะ แต่ก็อย่ากังวลไปเลยค่ะความเครียดนี่แหละตัวดีที่ทำให้เราแก่เร็วขึ้น จะยังไงซะการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ก็เป็นเรื่องธรรมชาติเนอะ คงไม่มีใครหลีกหนีพ้น แต่…เรามีวิธีชะลอความแก่ที่เรากลัวนักกลัวหนามาบอกกันค่ะ และก็ไม่เป็นความลับใดๆทั้งสิ้น แค่ง่ายๆด้วยการหันมาใส่ใจในการเลือกรับประทานอาหารเท่านั้นเอง ไม่ต้องไปเสียเงินมากมายในการเข้าคอร์สทำหน้าหรือซื้อครีมที่ราคาแสนจะแพงกันหรอกค่ะ ว่าแต่ ..แล้วจะต้องรับประทานอาหารอะไรยังไง และอาหารแบบไหนที่จะทำให้แก่ช้า..มีด้วยหรอ? อาหารที่เรารับประทานเข้าไปในแต่ละวันนั้น คุณทานเพื่อดับความหิวกระหาย หรือต้องการลิ้มรสชาติที่แสนอร่อยในราคาที่แสนแพง… ต้องยอมรับนะคะว่าอาหารที่ดีแต่ไม่แพงก็อร่อยส่วนอาหารที่แพงแต่ได้คุณภาพดีเยี่ยมนั่นก็ดีเช่นกัน แต่ถ้าแพงแล้ว รสชาติดีเยี่ยมแล้ว แต่ไม่ได้ให้คุณประโยชน์อะไรเลย นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง เอาล่ะยังไงการเลือกรับประทานอาหารที่ถูกต้องและให้ประโยชน์ต่อร่างกายเราถึงแม้รสชาติจะไม่ถูกปากหรือบางอย่างราคาก็แสนแพง แต่บางทีนั้นเราก็ต้องยอมปรับเปลี่ยนเมนูเพื่อแต่ละวันจะได้รับอาหารที่มีประโยชน์ที่สุด แต่ขอบอกเลยว่าอาหารแต่ละชนิดที่จะมาบอกในวันนี้ นอกจากจะเป็นสิ่งที่เราๆชอบทานกันแล้วยังให้ประโยชน์ล้มหลามเลยแหละค่ะ อาหารแต่ละชนิดคุ้นหูแล้วยังต้านแก่อีกแหน่ะ ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่ความลับ ขยับเข้ามาใกล้ๆ อยู่แค่นี้เอง นี่ไง HealthGossip กำลังบอกคุณว่า ต่อไปนี้เราจะไม่กลัวแก่กันแล้วค่ะ มาดูกันเลยดีกว่าว่าอาหารเหล่านั้นมีอะไรบ้างเอ่ย แท่น แท๊น….

 

15 สุดยอดอาหารต้านความแก่

 

1.ปลา

มีผลการวิจัยว่าการทานปลาเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ ชาวอลาสก้าไม่มีปัญหาเกี่ยวเรื่องโรคหัวใจเลย เพราะพวกเขาทานปลากันกันทุกวัน เนื้อปลาอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นไขมันต่ำที่จำเป็นต่อสมองและการทำงานของหัวใจ สารอาหารจากปลายังช่วยลดความดันโลหิต ลดระดับโคเลสเตอรอล และยังชะลอความแก่ได้อีกด้วย ปลาที่แนะนำก็จะเป็น ปลาแซลมอน  สารสีส้มที่ผิวของปลาแซลมอน เป็นสารในกลุ่มคาโรตีน มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ทำให้หัวใจมีสุขภาพดี ช่วยป้องกันโรคไตเสื่อมจากเบาหวานอีกด้วยค่ะ

 

2.เบอร์รี่

ผลไม้ในตระกูลเบอรี่ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น สตรอเบอรี่ บลูเบอรี่ แบล็คเบอรี่ ราสเบอรี่ แครนเบอร์รี่ ล้วนอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยทำให้เซลล์มีสุขภาพดีและช่วยปกป้องคุณจากโรคด้วย นอกจากนี้ แบล็คเบอรี่ยังช่วยปกป้องคุณจากมะเร็งและโรคเบาหวานได้ด้วย

 

3.ดาร์กช็อกโกแลต

พูดถึงช็อกโกแลตแล้วคงยิ้มกันเลยสินะคะ และช็อคโกแลตที่ดีเพื่อสุขภาพนั้นต้องผสมโกโก้ไม่ต่ำกว่า 70% ที่มีความเข้มข้นสูง ที่เราเรียกกันว่าดาร์กช็อกโกแลตนั่นแหละค่ะ ดาร์กช็อกโกแลต มีสาร “ฟลาโวนอยด์” (Flavonoid) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และเป็นชนิดเช่นเดียวกับไวน์แดง พืชผัก ผลไม้ และใบชา จึงช่วยปกป้องผิวจากแสงยูวีได้นั่นเองรวมถึงช่วยปกป้องผิวของเราจากอาการอักเสบเนื่องมาจากการสัมผัสแสงอัลตราไวโอเลตซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งผิงหนัง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน ลดไขมันอุดตันในเส้นเลือดที่หัวใจ  ป้องกันโรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคเส้นเลือดสมองได้  โกโก้มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง นี่คือเหตุผลที่ทำให้สาวๆ ที่โปรดปรานการทานช็อคโกแลตปลื้มปริ่มตามกัน นอกจากของโปรดที่แสนจะอร่อยแล้วนั้นยังช่วยให้สาวๆแก่ช้าลงด้วยค่ะ

 

4.น้ำมันมะกอก

ถูกนำมาใช้ในการปรุงอาหารชนิดต่างๆ มีอัตราไขมันอิ่มตัวต่ำช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งและป้องกันโรคหัวใจได้ คนที่ทานน้ำมันมะกอกเป็นประจำจะช่วยชะลอวัย เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินอีที่จะช่วยทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นสูง ผิวเปล่งปลั่ง และลดริ้วรอยเหี่ยวย่น

 

5.ชาเขียว

ชาเขียวที่เราชอบดื่มกันดีๆนี่เองแหละค่ะ เพราะในชาเขียวนั้นมีสาร epigallocatechin gallate (EGCG) ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการขับสารพิษในร่างกาย สามารถกวาดล้างอนุมูลอิสระที่เป็นตัวกัดกร่อน DNA ในกระแสเลือดลงได้ จึงส่งผลในการช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์และอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายและสามารถช่วยชะลอความแก่ชราและช่วยคงความอ่อนเยาว์ไว้ได้นั่นเองค่ะ

 

6.ธัญพืชประเภทถั่ว

ธัญพืชประเภทถั่ว เช่น ถั่วเขียว ถั่วแดง และถั่วเหลือง ประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดรวมไปถึง ธาตุเหล็ก วิตามินบี และโพแทสเซียม ถั่วเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันอิ่มตัว ล่าสุดได้พบว่าคนกินถั่วทุกวันอายุยืนยาวกว่าคนที่ไม่กิน ถั่วมีสารอาหารมากมายทั้งแร่ธาตุและวิตามินอีที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระสูง จึงเป็นสุดยอดอาหารชะลอความแก่ได้อย่างดี ขอบอกว่าทานถั่ววันละ 1 กำ ช่วยลดคอเลสเตอรอลได้

ถั่วเหลืองจะมีสารอาหารที่ชื่อว่า ไอโซหลาโวน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระประเภทหนึ่ง เหมาะสำหรับคนที่อยู่ในช่วงวัยทอง โดยสรรพคุณของมันจะเข้าไปทำหน้าที่ลดปัญหาและอาการผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงวัยนี้ เทียบได้กับฮอร์โมนสังเคราะห์ที่ขาดแคลนไป ช่วยชะลอการเสื่อมของกระดูก ลดการเกิดโรคกระดูกพรุน ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง และดูอ่อนเยาว์มากขึ้น

ถั่วแดงมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ และมีโปรตีนช่วยช่อมแซมร่างกาย มีธาตุเหล็กช่วยในการกระตุ้นพลังงาน วิตามินบี และแมกนีเซียม กากใยยังช่วยลดคอเลสเตอรอล

ถั่วเขียวเป็นแหล่งของโปรตีนไขมันต่ำที่สำคัญซึ่งดีต่อหัวใจของคุณด้วย

 

7.ไวน์แดง

คุณอาจไม่อยากเชื่อเมื่อรู้ว่าไวน์แดงดีต่อสุขภาพของคุณ สารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารต่าง ๆ ในไวน์แดงช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ ช่วยปกป้องเส้นเลือดแดงและเส้นเลือดฝอย นอกจากนี้ยังพบสารประกอบอื่นอย่างเรสเวอราโทรลในไวน์แดงที่ช่วยป้องกันเส้นเลือดขอด ลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็ง ลดการอักเสบ และช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลด้วย ไวน์เป็นเครื่องดื่มที่นิยมมากที่สุดทั่วโลก ถ้าเราดื่มไวน์ในปริมาณที่พอดีก็จะช่วยป้องกันโรคภัยได้มากมาย สำหรับผู้หญิงควรดื่มไวน์แดงประมาณหนึ่งแก้วต่อวัน จะช่วยลดโรคความจำเสื่อม โรคเบาหวาน และช่วยให้หลับง่ายขึ้น

 

8.อะโวคาโด

การรับประทานอะโวคาโดช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน และปกป้องผิวจากอันตรายที่เกิดจากแสงแดด เนื่องจากอะโวคาโดอุดมไปด้วยวิตามินอี และกลูทาไธวัน อโวคาโดยังมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ต้านความแก่ที่ดีที่สุดอีก นอกจากนี้ยังมีวิตามินบี 6 และวิตามินซี กับแร่ธาตุแมกนีเซียมซึ่งช่วยในการสร้างฮอรโมน ความสุขเซโรโทนินและโดพามีน เพราะฉะนั้นถ้าเรารับประทานอโวคาโดเป็นประจำ ก็จะส่งผลต้านความชราอย่างสูงสุด อาจจะบดอะโวคาโดโรยหน้าโอ๊ตเค้กเป็นของทานเล่นดูก็ได้ หรือจะเป็นสลัดอะโวคาโดดีน้า

 

9.กระเทียม

กระเทียมเป็นที่รู้จักกันว่ามีสารชะลอความแก่ ซึ่งรวมไปถึงสามารถลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือดและความดันโลหิตด้วย ลดการอักเสบและปกป้องเซลล์ให้มีสุขภาพดี กระเทียมช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้ด้วย ในสมัยก่อนมีการใช้กระเทียมเพื่อกำจัดอาการติดเชื้อทั้งไวรัสและแบคทีเรียในระบบร่างกายมนุษย์ นอกจากนี้ กระเทียมยังช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร ลำไส้ เต้านม และตับอ่อนด้วย

 

10.ผักใบเขียว

ผักสดมีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง วิตามินและแร่ธาตุในผักจะช่วยต่อสู้กับอนุมูลอิสระจึงช่วยชะลอความแก่ได้ ผักที่ดีที่สุดคือผักใบเขียวและมีลักษณะเป็นใบ เช่น ผักปวยเล้งและคะน้า ซึ่งจะช่วยต่อสู้กับการถูกทำร้ายเนื่องจากรังสียูวีได้ นอกจากนี้ทั้งพริกแดง พริกเขียวและพริกเหลืองต่างก็มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกาย น้ำฉ่ำๆจากพริกหยวกยังจะช่วยให้สุขภาพเล็บแข็งแรง ลองนำพริกไปทำซัลซ่า โดยผสมเข้ากับมะเขือเทศกระเทียม พริกแดง แตงกว่า น้ำมันมะกอก และน้ำมะนาวดูสิ นอกจากจะได้ประโยชน์มหาศาลจากเหล่าสุดยอดอาหารแล้ว ยังได้อร่อยกับเมนูเด็ดจากฝีมือของคุณเองอีก

 

11.ส้ม

ส้ม ซึ่งเป็นผลไม้ที่รับประทานง่าย เพราะเรารู้ว่าในส้มมีวิตามินซี และวิตามินซีนี้ จัดว่าดีต่อการสร้างคอลลาเจนใหม่ในผิว จึงทำให้ผิวแน่น และอิ่มเอิบ ทางออสเตรเลียได้ค้นคว้าและพบว่า ส้มมีไฟโตเคมิเคิลต่างๆรวมกว่า 170 อย่าง ส้มจึงมีประโยชน์ช่วยป้องกันการอักเสบ ต่อสู้กับโรคมะเร็ง และยังสามารถป้องกันโรคโลหิตอุดตันอีกด้วย

 

12.แอปเปิ้ล

การทานแอปเปิ้ลเพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วนเต็มที่นั้น ควรทานทั้งเปลือกเนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องสมองจากการถูกทำลาย ดังนั้น เวลาเราเคยทานแอปเปิ้ลแบบที่ต้องปลอกเปลือกก่อนทุกครั้งนั้นก็ต้องลองปรับเปลี่ยนมาทานแบบไม่ต้องปลอกเปลือกกันดูนะคะ และนอกจากนี้แอปเปิ้ลยังมีสารเกอซิตินซึ่งเป็นแอนตี้แดนท์ต้านการอักเสบ และยังช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่อยู่ในร่างกาย ถ้าเรารับประทานแอปเปิ้ลเป็นประจำจะช่วยให้ปอดแข็งแรง และลดความเสี่ยงของโรคหอบหืดอีกด้วยค่ะ

 

13.เต้าหู้และนมถั่วเหลือง

ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ถือเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีเยี่ยมแถมยังมีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆมากมาย เช่น แคลเซียม เหล็ก สังกะสี วิตามินบี เป็นต้น ทั้งถั่วเหลืองและเต้าหู้ก็เป็นอาหารที่มีเอสโตรเจนหรือฮอร์โมนเพศหญิงที่จะช่วยในเรื่องการบำรุงดูแลผิวพรรณ และในน้ำเต้าหู้ยังมีโฟโตเอสโตรเจนแฝงอยู่ และข้อดีของการรับฮอร์โมนเอสโตรเจนจากน้ำเต้าหู้ก็คือ น้ำเต้าหู้แอบแฝงเอสโตรเจนมาในรูปของเหลว ทีนี้ร่างกายก็จะดูดซึมและนำฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ได้ไปใช้ได้อย่างรวดเร็วนั่นเองนะคะ และเต้าหู้และถั่วเหลืองยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ของร่างกายไม่ให้สูงจนเกินไป และช่วยให้การหลั่งอินซูลินอยู่ในระดับที่เหมาะสม ระดับน้ำตาลและอินซูลินที่สูงเกินไปนั้นจะทำให้เป็นโรคเบาหวาน เซลส์ต่างๆเสื่อมสภาพเร็ว และที่สำคัญทำให้แก่เร็วและแก่เกินวัย

 

14.ไข่

ให้ลืมข้อเสียเรื่องคอเลสเตอรอลที่เคยเชื่อกันมานานไปได้เลยค่ะ เพราะไข่นี่แหละมีครบทั้งเกลือแร่ วิตามิน และก็โปรตีน ไข่แดงนั้นยังอุดมไปด้วยคาโรทินอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยมยอดนั่นเอง

 

15.ขมิ้น 

ขมิ้นที่เราชอบนำมาทำเป็นเครื่องเทศในอาหารนี่แหละค่ะ ขมิ้นเป็นผงสีเหลืองที่ใส่ในแกงกะหรี่ ในขมิ้นมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยป้องกันของโรคอัลไซม์เมอร์อีกด้วย แหมเอาใจคนที่ชอบข้าวแกงกะหรี่กันเลยแหละคราวนี้ ยังไงก็อย่าพลาดเมนูข้าวแกงกะหรี่กันนะคะ

 

“อาหาร” เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำหรับการดำรงค์ชีวิตในแต่ละวันของมนุษย์โลก การที่ได้รับประทารอาหารที่ดีอร่อยและราคาแพงใช่ว่าจะทำให้เราต้องมีสุขภาพที่ดีเสมอไป แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ค่ะเพราะว่าอาหารที่มีราคาแพงนั้นก็ย่อมเป็นส่วนที่ช่วยให้เราได้รับประทารอาหารที่มีคุณภาพดีเยี่ยมแต่ก็ต้องให้ถูกเมนูเช่นกัน และต่อจากนี้ หวังว่าอาหาร 15 ชนิดข้างต้นจะเป็นแนวทางในการเลือกรับประทานหรือแนวทางในการประกอบอาหารทานเองที่บ้านก็ดี แค่นี้ความแก่น่ะหรอ….เชิ่ดใส่เลยค่ะ 🙂

 

www.flickr.com/photos/sharisberries/16750735390/

11 สุดยอดอาหารที่ทำให้ผมสวยสุขภาพดี

pretty-hair-1
Source: Flickr (click image for link)

สาวหลายๆคน นอกจากรูปร่างหน้าตาที่เราต้องดูแลเป็นพิเศษแล้วนั้นเรื่องของเส้นผมหรือการมีผมที่สลวยสวยสุขภาพดีก็เป็นความใฝ่ฝันของผู้หญิงอย่างเราๆกันทั้งนั้น เพราะมันคือเสน่ห์สำคัญอย่างหนึ่งของเราเลยจริงไหมคะ บางคนมีผมที่บาง แห้ง เสีย อ่อนแอ หลุดร่วงง่าย หรือผมไม่มีน้ำหนัก เบาฟูฟ่อง หรือมีปัญหายาวช้าบ้างแหละ  แต่ถึงแม้ว่าคุณจะลงทุนไปมากมายกับผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมต่าง ๆ แชมพู คอนดิชั่นเนอร์ มาส์ก อบไอน้ำทุกสัปดาห์ ฯลฯ แต่ถ้ายังพบว่าผมยังคงแห้งและไม่มีชีวิตชีวา การดูแลเส้นผมของเราไม่ใช่แค่สรรหาผลิตภัณฑ์ต่างๆมาเพื่อบำรุงก็บำรุงได้แค่ภายนอกเท่านั้น ไม่ว่าจะใช้ราคาแพงแค่ไหนแล้วคุณจะมั่นใจได้ยังไงว่าไม่มีสารเคมีปนเปื้อน? ยังไงไม่ว่าอะไรก็ตามการที่เราบำรุงจากภายในนั้นย่อมเป็นปัจจัยที่สำคัญและเป็นพื้นฐานของความสวยสู่ภายนอกเสมอ  การเลือกรับประทานอาหารยังไงก็ยังเป็นวิธีที่ง่ายและไม่เสียเวลา เพราะฉะนั้นสเต็ปแรกเราควรทราบก่อนว่าเส้นผมของเรานั้นต้องการสารอาหารอะไรบ้าง และหลังจากนั้นเรามาปรับพฤติกรรมการกินของเรากันค่ะ

เส้นผม หมายถึง ขนที่งอกปกคลุมหนังศีรษะของมนุษย์ เป็นเคราตินที่ประกอบด้วยกรดอะมิโน และแร่ธาตุ C, H, N, P และ S ผมถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ เส้นผม (hair shaft) เป็นส่วนที่งอกเหนือหนังศีรษะ และรากผม (hair root) เป็นส่วนที่ฝังอยู่ใต้หนังศีรษะ

ริคาร์โด วิลา โนวา นักเกศาโลมาวิทยา (Trichologist) หรือผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านเส้นผมและหนังศีรษะ จากร้าน Urban Retreat ในห้างแฮร์รอด ประเทศอังกฤษ แจงว่า การมีผมที่สุขภาพดีนั้นจะอาศัยการบำรุงจากภายนอกเพียงอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องใส่ใจในอาหารที่บริโภคเข้าไปด้วย หากคุณกินอาหารที่มีสารอาหารสำหรับเส้นผมไม่เพียงพอก็จะทำให้ผมแห้งบาง ขาดง่าย ไร้ประกาย มีภาวะผมแห้งมากหรือผมมันง่าย และหากเกิดอาการเช่นนี้ขึ้นกับเส้นผมแล้ว อาจต้องใช้เวลามากที่สุดถึง 4 ปีทีเดียว กว่าเส้นผมจะค่อย ๆ ฟื้นฟูสู่สภาพเดิม

 

กินอะไรผมถึงสวยสุขภาพดี

 

1. แซลมอน (Salmon Fish) : ผมแข็งแรงไม่ขาดร่วง
เนื่องจากปลาแซลมอน มีกรดไขมันที่จำเป็นโอเมก้า 3 (omega – 3 fatty acid) ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีคุณภาพดี และยังมี วิตามิน บี 12 และธาตุเหล็กอยู่ในปริมาณมาก ประชากรของประเทศญี่ปุ่นมีอัตราการเป็นผมร่วง ผมบาง ต่ำกว่าประชากรในประเทศแถบตะวันตก และต่ำสุดในเอเซีย การนิยมบริโภคปลาแซลมอนมากเป็นเหตุผลสนับสนุนสถิตินี้ส่วนหนึ่ง แม้ในปัจจุบันจะพบว่าวัยรุ่นชาวญี่ปุ่นนิยมทำแฟชั่นเกี่ยวกับทรงผมมากเป็น พิเศษทั้งการใช้สารเคมีต่างๆกับเส้นผม ทั้งยืดผม ดัดผม เปลี่ยนสีผมนานาสี ก็ยังพบว่าชาวญี่ปุ่นมีอัตราการเกิดปัญหาผมร่วง ผมบางต่ำมาก นั่นแสดงว่าอาหารการกินมีส่วนทำให้เส้นผมมีความแข็งแรงได้จริงๆ

2. ดาร์กช็อกโกแลต (Dark Chocolate) : ผมหงอกก่อนวัย

ยับยั้งได้ด้วยการกินช็อกโกแลต โดยเฉพาะดาร์กช็อกโกแลต เพราะในช็อกโกแลตมีสาร “เมลานิน” ซึ่งเป็นเม็ดสีในผิวและผม จะช่วยทำให้ผมดกดำและเป็นประกายมากขึ้น

3. ผักใบเขียว (Dark green vegetables) : ผมนุ่มสวย ไม่ต้องพึ่งครีมนวด

จำพวกบล็อกโคลี่ ผักโขม คะน้า ผักบุ้ง เป็นแหล่งของวิตามินเอ วิตามินซีและธาตุเหล็ก ซึ่งธาตุเหล็กมีส่วนช่วยสร้างไขมัน เพื่อทำหน้าที่สร้างความชุ่มชื้นปกป้องผิว และผม เสมือนเป็นคอนดิชันเนอร์จากธรรมชาติ และป้องกันไม่ให้เส้นผมเปราะบาง 

4. ไข่ (Egg) : ผมแตกปลาย

เพราะไข่สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลายรูปแบบ ได้หลายเมนู ทำง่าย กินก็ง่าย แถมอุดมไปด้วยสารอาหาร ทั้งโปรตีน ไบโอติน และวิตามินบี12 ที่ทำให้เส้นผมแข็งแรง และยังช่วยบำรุงไม่ให้เส้นผมแตกปลายนั่นเองค่ะ

5. ธัญพืช (Whole Grains) เช่น ขนมปังที่มีกาก (Whole – wheat bread), ซีเรียล (cereals) : ผมดำเงางามด้วยพืชตระกูลถั่ว

สามารถหาได้จากขนมปังโฮลวีท ซีเรียลผสมธัญพืช (นำมากินกับนมเป็นอาหารเช้า เข้าท่ามากๆ เลยจ้า^^) ธัญพืชนี้อุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยบำรุงสุขภาพเส้นผม ได้แก่ ธาตุเหล็ก สังกะสี วิตามินบี และ ซีลีเนียม และซีลิเนียมถือเป็นอาหารผมที่สำคัญอีกตัว ที่ช่วยเสริมสร้างเส้นผมให้แข็งแรง มีสุขภาพดี  ซึ่งสารอาหารเหล่านี้จะทำให้เส้นผมหนานุ่ม เป็นเงางามและมีสุขภาพดีด้วยค่ะ

6. หอยนางรม (Oyster) : รังแคไม่มากวนใจ

หอยนางรมนี้อุดมไปด้วยสังกะสี (แถมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระด้วยนะเออ) นอกจากนี้หอยนางรมยังช่วยป้องกันรังแคและการขาดร่วงของเส้นผมด้วยค่ะ ถ้าสาวๆ คนไหนไม่ได้รับประทานหอยนางรมบ่อยๆ ก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ จมูกข้าว งา เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ถั่วลิสง และในเนื้อวัวหรือเนื้อแกะก็มีสังกะสีเช่นเดียวกันจ้า เพราะงั้นสามารถเลือกรับประทานอาหารข้างต้นแทนหอยนางรมได้ตามสะดวกเลยจ้า

7. นม และผลิตภัณฑ์จากนม เช่น โยเกิร์ต, ชีส  :  เส้นผมแข็งแรง

เพราะในนมนอกจากมีแคลเซียมเป็นหลักแล้วซึ่งแคลเซียมจะช่วยบำรุงเส้นผมให้มีสุขภาพดี มีชีวิตชีวา และนมยังประกอบไปด้วย เคซีน (Casein) และเวย์ (Whey) ซึ่งเป็นสารอาหารประเภทโปรตีน มีส่วนสำคัญมากที่ช่วยในเรื่องการเจริญเติบโตของเส้นผม และช่วยบำรุงให้เส้นผมแข็งแรง สาวๆ ห้ามละเลยการดื่มนมเด็ดขาดจ้า เพราะนอกจะหาซื้อดื่มได้ง่ายแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายและเส้นผมของเราด้วยนะเออ (ชีสกับโยเกิร์ตก็มีประโยชน์คล้ายๆ นมเหมือนกันจ้า)

8. แครอท (Carrots) : สุขภาพดี เส้นผมแข็งแรง

แครอทเป็นแหล่งรวมของวิตามินเอ ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงให้หนังศีรษะมีสุขภาพดีและแข็งแรง ช่วยให้ผมเป็นประกายเงางามและบำรุงรากผมให้แข็งแรง เพราะฉะนั้นสาวๆ คนไหนไม่ชอบแครอท งานนี้ก็ห้ามงอแงแล้วจ้า ต้องหัดกินแครอทได้แล้วนะ

9. กล้วย (Banana) : เส้นผมไม่ขาดหลุดร่วง

กล้วยเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินบี6 และแร่ซิลาก้า ช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง นอกจากนี้กล้วยยังช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงซึ่งเป็นส่วนช่วยทำให้หนังศีรษะแข็งแรง ป้องกันการขาดหลุดร่วงของเส้นผม ใครที่ผมร่วงเยอะๆ ต้องหันมารับประทานกล้วยกันได้แล้วน้า

10. เนื้อไก่ (Chicken meat)  : เส้นผมสีสวย

เนื้อไก่อุดมไปด้วยโปรตีนไบโอตินและธาตุเหล็ก สังกะสี  ซึ่ง ไบโอตินช่วยลดอาการผมขาดร่วง ช่วยในกระบวนการการสร้างเซลล์ใหม่ของเส้นผม ช่วยบำรุงผมให้แข็งแรง ไม่เปราะบางและขาดง่าย และยังช่วยรักษาสีของเส้นผมสำหรับคนที่ทำสีผมด้วยค่ะ

11. น้ำ (Water) : ผมแห้งขาดความชุ่มชื้น

ใครจะรู้ล่ะคะ ว่าน้ำเปล่าที่เราดื่มทุกวันนี่แหละมีประโยชน์มากมายดื่มกันง่ายๆได้ทุกวัน แค่เพียงอย่ามองข้ามกันก็พอค่ะ เพราะเส้นผมของเราขาดน้ำไม่ได้เป็นอันขาด ก็เพราะว่าเส้นผมมีน้ำเป็นองค์ประกอบอยู่ถึง 1 ใน 4 ของน้ำหนักเส้นผม ดังนั้น จึงควรดื่มน้ำประมาณ 8 – 10 แก้วต่อวัน เพื่อให้เส้นผมมีความชุ่มชื้นในระดับที่พอเหมาะ และป้องกันไม่ให้ผมแห้ง

 

การดูแลสุขภาพตัวเองเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้วค่ะ แต่ยังไงการดูแลเส้นผมให้มีสุขภาพดีก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน แค่เราลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารกันสักหน่อยแค่นี้เราก็จะมีสุขภาพผมที่ดีจากภายในแล้วใยภายนอกจะไม่ดีตามล่ะคะ หวังว่า HealthGossip มาบอกเล่ากันวันนี้จะช่วยสาวๆกันได้นะคะ

 

www.flickr.com/photos/martinaphotography/7062111723/