Browse Tag: ผิวสวย

16 สุดยอดผลไม้ที่ช่วยให้ผิวสวยสุขภาพดี

Source: Flickr (click image for link)

ขึ้นชื่อเรื่องความสวยความงามสำหรับผู้หญิงย่อมเป็นของคู่กันเสมอค่ะ โดยเฉพาะเรื่องของผิวพรรณแล้วคงไม่มีใครที่ไม่อยากมีผิวสวยอย่างแน่นอน ผิวสวยในที่นี้คือมีผิวที่เนียนสวยไม่พอต้องมีผิวที่สุขภาพดีอีกด้วยค่ะ หลายคนคิดว่าการมีผิวที่สวยคือผิวขาวใสปิ้งแต่เมื่อมองย้อนกลับมาดูธรรมชาติบ้านเราแล้วถ้าไม่ได้จากกรรมพันธุ์มาก็คงจะยากไปหน่อยนึง ด้วยแสงอาทิตย์ที่จัดจ้านพ่วงมาด้วยแสง UV ที่ร้อนแรงและผสมกับอนุมูลอิสระรอบกายที่ประทุประทังให้ผิวของเรายิ่งย่ำแย่ ถึงแม้ผิวเราอาจจะไม่ขาวเรืองแสงเหมือนใครๆ แต่เราสามารถทำให้ผิวเราเนียนสวยและมีสุขภาพดีจากภายในได้ค่ะ ก็ด้วยจากการเลือกรับประทานอาหารที่ถูกต้องรวมถึงการดื่มน้ำให้เป็นประจำ ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆก็ทาปกป้องผิวกายเราสักนิดก่อนที่จะออกจากบ้าน ทราบหรือเปล่าคะว่าหลายคนไม่ยอมทานผลไม้เลยอาจจะเนื่องด้วยไม่ชอบหรือไม่มีเวลา แต่อาหารประเภทผลไม้นี่แหละเป็นสุดยอดของอาหารผิวชั้นดี ในประเทศไทยนั้นมีผลไม้หลายอย่างในแต่ฤดูและมีตลอดทั้งปี อย่ารีรอหรือขี้เกียจที่จะกินผลไม้ให้ติดเป็นนิสัยกันเลยค่ะ ผลไม้ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินต่างๆ จะส่งผลโดยตรงต่อการทำให้ผิวเรามีสุขภาพดีทั้งยังส่งเสริมสารอาหารบางตัวรวมทั้งกลไกบางอย่างให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นี่แหละที่เราเรียกกันว่า สารต่อต้านอนุมูลอิสระ จากธรรมชาติค่ะ

 

16 สุดยอดผลไม้ที่ช่วยให้ผิวสวยสุขภาพดี

 

1.แอปเปิ้ล

แอปเปิ้ล เป็นผลไม้ที่ถือเรียกได้ว่าเป็นสุดยอดผลไม้เลยก็ว่าได้ค่ะไม่ว่าจะสีไหนล้วนแต่มีประโยชน์ด้วยกันทั้งนั้น ในผลแอปเปิ้ลนั้นนอกจากมีวิตามินหลากหลายแล้วยังมีสารสำคัญอย่างแพคตินที่ช่วยทำให้เล็บมีความแข็งแรง อีกทั้งยังอุดมไปด้วยกรดมาลิกซึ่งเป็นชนิดของกรดผลไม้ที่เป็นที่รู้จักกันในโลกสุขภาพที่เรียกกันว่า alpha hydroxyl acid กรดมาลิกเป็นกรดที่อ่อนกว่ากรดอื่นๆ ที่นิยมใช้ในกลุ่มรักษาความงามเช่นเดียวกับกรดไกลโคลิก และ salicylic กรดมาลิกช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีกระชับและดูอ่อนเยาว์ขึ้นโดยการต่ออายุเซลล์ผิวโดยไม่ทำลายชั้นผิวหนังนั่นเองค่ะ  อีกทั้งปริมาณเส้นใยที่สูงในผลแอปเปิ้ลยังสามารถช่วยในการทำความสะอาดลำไส้ใหญ่และส่งเสริมการเคลื่อนไหวของลำไส้ให้เป็นปกติอีกด้วยค่ะ

 

2.มะนาว

พูดถึงผลไม้ประเภทกรดรสเปรั้ยวจี๊ดอย่างมะนาวในด้านของการช่วยในเรื่องความสวยความงามได้อย่างไร ซึ่งมะนาวจะไปช่วยเพิ่มความขาวกระจ่างใสให้แก่ผิวอีกทั้งยังช่วยลบเลือนการเกิดริ้วรอยจากรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวรวมถึงความหมองคล้ำของผิวที่ทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ และมะนาวยังสามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึกโดยทำลายสิ่งสกปรกที่ไปอุดตันรูขุมขนต่างๆ ได้อีกด้วยค่ะ

 

3.อะโวคาโด

อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมากจนเป็นที่กล่าวถึงในด้านสุขภาพว่าเป็นสุดยอดอาหาร (Super Foods) และมักจะนำมาใช้ทำมายองเนสแบบมังสวิรัติหรือแบบเจนั่นเองค่ะ นอกจากรสชาติที่อร่อยถูกปากใครหลายคนแล้ว การเลือกรับประทานอะโวคาโดจะให้ประโยชน์ที่น่ามหัศจรรย์ต่อผิวพรรณโดยตรง เนื่องจากอะโวคาโดมีไบโอตินหรือที่เรียกว่าวิตามินบี 7 ซึ่งไบโอตินจะไปช่วยกระตุ้นการงอกและการเจริญเติบโตของเซลล์ในร่างกาย โดยเฉพาะจะไปกระตุ้นทำให้เส้นผมและเล็บงอกใหม่ได้เร็วขึ้น อะโวคาโดยังมีวิตามินอีที่เป็นตัวช่วยในการปกป้องผิวอีกทั้งกรดไขมันในผลอะโวคาโดที่เป็นกรดไขมันตามธรรมชาติ จะไปช่วยให้ผิวมีการหล่อลื่นทำให้นุ่มนวลและช่วยเสริมสร้างผิวให้อ่อนเยาว์มันวาวแบบมีน้ำมีนวลตามธรรมชาติค่ะ

 

4.มะเขือเทศ

มะเขือเทศขึ้นชื่อในเรื่องของสารไลโคปีนที่มีในมะเขือเทศทีเป็นตัวพระเอกอยู่ในมะเขือเทศเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันปัญหาริ้วรอยแห่งวัยหรือชะลอผิวให้คงความอ่อนเยาว์รวมถึงปกป้องความเสื่อมของเซลล์ผิว ให้ผิวมีความแข็งแรงต่ออนุมูลอิสระรอบกาย รวมถึงแสงยูวีที่ร้อนแรงและช่วยบำรุงผิวพรรณให้มีความเนียนนุ่มชุ่มชื่นอีกด้วยค่ะ

 

5.ฝรั่ง

หลายคนคงไม่ทราบกันว่าฝรั่งลูกสีเขียวๆ แบบนี้จะมีวิตามินซีอยู่สูงมาก อีกทั้งยังมีวิตามินเอและแร่ธาตุโพแทสเซียมอยู่อีกด้วยค่ะ และด้วยประโยชน์จากสารอาหารเหล่านั้นเมื่อร่างกายเราได้รับเข้าไปแล้วจะทำให้ผิวพรรณที่สดใสเปล่งปลั่งจากวิตามินซีที่ไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นใต้ผิวหนังของเราด้วยค่ะ

 

6.มะละกอ

ความจริงแล้วผิวคนเราจะดูไม่สดใสอาจจะมาจากการที่ไม่ได้ขับของเสียออกจากร่างกาย คืออาการท้องผูกไม่มีการขับถ่ายที่สม่ำเสมอเหมือนเป็นการสะสมของเสียไว้ในร่างกาย ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ผลดีต่อสุขภาพไปด้วยแต่มะละกอมีเส้นใยอาหารสูงรวมทั้งยังมีเอ็นไซส์ปาเปนที่เป็นตัวต่อต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องให้เรามีผิวพรรณที่เยาว์วัยขึ้นอีกด้วยค่ะ

 

7.กีวี่

ผลไม้รสเปรี้ยวอย่างกีวี่เต็มล้นไปด้วยวิตามินซีที่มากถึง 98 มิลลิกรัมต่อปริมาณ 100 กรัม วิตามินซีนอกจากช่วยในเรื่องของสุขภาพได้ด้านการเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงแล้วยังช่วยทำให้ผิวของเราดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้นแบบนี้ไม่ควรพลาดค่ะ

 

8.ทับทิม

ผลไม้ที่มีเมล็ดสีชมพูอมแดงใสๆ รสชาติอร่อยที่ใครหลายคนชอบกัน นอกจากความอร่อยแล้วยังเป็นผลไม้ที่มีสารอาหารที่จัดเต็มอย่างวิตามินซี วิตามินเอ รวมถึงวิตามินอีที่สูงปริ๊ด โดยวิตามินที่กล่าวมานั้นล้วนช่วยในเรื่องของผิวพรรณเราโดยตรง ช่วยต้านอนุมูลอิสระและคืนความชุ่มชื่นให้กับผิวทำให้ผิวพรรณของเรามีน้ำมีนวลเปล่งปลั่งมากขึ้นค่ะ

 

9.สตรอเบอร์รี่

นอกจากปริมาณวิตามินซีสูงแล้วสตรอเบอร์รี่ยังมีกรดที่สำคัญอยู่คือ alpha hydroxyl หรือที่เราเรียกกันว่ากรด salicylic อาจจะเคยได้ยินชื่อกรด salicylic เป็นกรดที่ใช้สำหรับการรักษาสิวนั่นเองค่ะ โดยการทำงานของกรด salicylic นั้นจะทำการเจาะลึกเข้าไปในรูขุมขนของเราและทำความสะอาดรูขุุมขน อีกทั้งยังช่วยขจัดรูขุมขนและหยุดสิวที่กำลังอักเสบได้ค่ะ นอกจากนั้นสตรอเบอร์รี่ยังมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่เรียกว่ากรด Ellagic ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าสามารถป้องกันการทำลายคอลลาเจนที่นำไปสู่การเกิดริ้วรอย และกรด Ellagic มีผลที่ทำให้ป้องกันอันตรายจากแสงแดดรังสียูวีด้วยค่ะ

 

10.กล้วย

กล้วยเป็นผลไม้สารพัดประโยชน์ช่วยทั้งทางด้านสุขภาพและด้านผิวพรรณความงาม กล้วยขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้ที่มีโพแทสเซียมในปริมาณมาก จึงช่วยทำให้ผิวที่แห้งกลับมีความชุ่มชื่นขึ้นและนั่นก็เป็นผลพวงที่ทำให้ผิวเรามีความอ่อนนุ่มและอ่อนเยาว์ขึ้นค่ะ โดยในกล้วยนั้นยังมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวของเรา อย่างเช่นวิตามินเอ วิตามินบี และวิตามินอี ซึ่งสารอาหารเหล่านั้นจะทำงานโดยการรักษาความยืดหยุ่นของผิวให้มีความชุ่มชื้น และป้องกันริ้วรอยที่เกิดก่อนวัยรวมทั้งจุดด่างดำที่เกิดจากสิวจางลงด้วยค่ะ

 

11.ส้ม

ส้มผลไม้ที่หารับประทานได้ง่ายทั่วโลกขึ้นชื่อในเรื่องที่เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยเส้นใยธรรมชาติ มีกรดธรรมชาติจากวิตามินซีในการไปช่วยส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังช่วยกระชับผิวให้เรียบเนียนขึ้น รวมทั้งช่วยสร้างภูมิกันป้องกันหวัดได้อีกด้วยค่ะ  ซึ่งส้มปริมาณ 100 กรัม มีวิตามินซีประมาณ 54 มิลลิกรัม

 

12.แตงโม

แตงโมเนื้อสีแดงๆ รสชาติหวานชุ่มฉ่ำเมื่อรับประทานสามารถดับกระหายคลายร้อนได้เลยทีเดียวค่ะ นอกจากจะช่วยในเรื่องของดับกระหายแล้วยังช่วยในเรื่องสุขภาพและผิวพรรณอีกด้วย ด้วยสารอาหารจำพวกวิตามินแร่ธาตุต่างๆ ที่มีมากมายหลายชนิดในแตงโมจะไปช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลขึ้น ในด้านสุขภาพกฌสามารถช่วยทำหน้าที่ล้างไต ขับสารพิษและช่วยขับปัสสาวะ ไม่ทำให้เกิดโรคในทางเดินปัสสาวะค่ะ

 

13.สับปะรด

สับปะรดเป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อว่าช่วยในเรื่องสุขภาพในด้านของการต้านการอักเสบที่มากจากสาร Bromelain ในสับปะรดที่จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกบนผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเอนไซม์ตัวนี้มีประโยชน์ช่วยทำผิวพรรณที่อ่อนโยน อีกทั้งสับปะรดยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอย่าง เบต้าแคโรทีน วิตามินซี ที่ทำให้ผิวมีความชุ่มชื่นและนุ่มเนียนรวมทั้งลดจุดด่างดำทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น

 

14.แคนตาลูป

ทราบหรือไม่คะว่าแคนตาลูปเพียงแค่ 1 ถ้วย มีค่าของวิตามินเอและวิตามินซีถึง 100 เปอร์เซ็นต์ต่อค่าที่แนะนำให้ควรได้รับวิตามินเหล่านั้นต่อวันเชียวค่ะ ถึงกับยกให้ผลไม้อย่างแคนตาลูปนั้นมีคุณสมบัติเป็น ผลไม้แห่งความงาม เลยทีเดียว ด้วยเนื้อสีส้มของแคนตาลูปก็เต็มไปด้วยเบต้าแคโรทีนที่จะไปเปลี่ยนเป็นวิตามินเอในร่างกายและช่วยส่งเสริมสุขภาพผิวโดยการทำให้ชั้นนอกของเซลล์ผิวที่ตายแล้วบางลงโดยไม่ทำให้รูขุมขนอุดตันจนก่อให้เกิดสิวได้ อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่าวิตามินเออาจสามารถช่วยปกป้องผิวหรือต่อต้านรังสียูวีและโอโซนที่เป็นอันตรายได้ค่ะ

 

15.องุ่น

องุ่นเป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระชนิดที่สำคัญที่เรียกว่า สาร Reservatrol นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินต่างๆ องุ่นเป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการก็มีไม่น้อยเช่นกันค่ะ สารต้านอนุมูลสระที่มีในองุ่นจะช่วยในเรื่องชะลอความแก่ เช่นเรื่องริ้วรอย ผิวหมองคล้ำและกระชับผิวให้เต่งตึงเรียบเนียนดูอ่อนเยาว์ขึ้นค่ะ

 

16.มะพร้าว

มะพร้าวเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ทั้งลูกโดยเฉพาะน้ำมะพร้าวที่ได้จากมะพร้าวอ่อนเมื่อดื่มแล้วจะช่วยในเรื่องของผิวพรรณให้เปล่งปลั่งและเนียนนุ่ม เนื่องจากในน้ำมะพร้าวนั้นมีฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ที่จะทำให้ผิวกระชับ ยืดหยุ่น ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยนั่นเองค่ะ

 

 

www.flickr.com/photos/kartaba/32923446374/

12 สุดยอดชนิดของอาหารที่มีคอลลาเจน

beauty-skin-1
Source: Flickr (click image for link)

คงเคยได้ยินกันว่าสิ่งสำคัญในชีวิตที่ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้ก็คือ เวลา เมื่อเวลาได้เดินหน้าไปแล้วก็ไม่สามารถย้อนหรือทวนกลับมาได้ ซึ่งถ้าเปรียบเทียบก็คงราวกับอายุของคนเราที่มีแต่เพิ่มขึ้นทุกวันทุกปี และก็ไม่สามารถที่จะทำการลดตัวเลขของอายุลงได้เลย แต่หลายๆ คนบอกว่าไม่จริงซะหน่อยฉันเองยังสามารลดอายุตัวเองได้! ก็จะอะไรล่ะเขาหมายถึงอายุบนใบหน้าของเราน่ะสิ จริงๆแล้วถ้าไม่เหมารวมถึงการเพิ่งทางการแพทย์ที่ต้องใช้เงินจำนวนมากในการทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้ สำหรับคนที่ไม่มีปัจจัยทางการเงินก็มีวิธีการเลือกรับประทานอาหารการกินให้เหมาะสมนี่เองที่จะทำให้คงความสาวสวยสดใสไว้ได้ ถ้าพูดถึงเรื่องอาหารแล้วเราก็ไม่พลาดที่จะนำเอาเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารและสุขภาพมาเสิร์ฟให้คุณผู้อ่านเสมอๆ ค่ะ วันนี้จึงอยากนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ อาหารที่มีคอลลาเจนสูงปรี๊ดมาให้ได้รู้จักกันว่ามีอะไรบ้าง สำหรับคนที่กำลังมองหายาอายุวัฒนะชั้นดีที่ได้จากอาหารก็ไม่ควรที่จะมองข้ามเช่นกัน ซึ่งอาหารหรือการกินก็ไม่ได้ช่วยแค่เรื่องความสวยความงามเท่านั้นนะคะ แต่ยังช่วยเรื่องของการดูแลสุขภาพภายในของเราอีกด้วย ถ้าวันนี้ยังไม่มีปัจจัยที่จะไปพึ่งคุณหมอแล้วล่ะก็ เรามาทำการเริ่มการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมต่อความต้องการของเรากันก่อนดีกว่าค่ะ เผลอๆ พอได้ผลแล้วเราอาจจะไม่ต้องไปเสียเงินมากมายก็เป็นได้ค่ะ

 

12 สุดยอดชนิดของอาหารที่มีคอลลาเจน

 

1.เนื้อปลาทะเล

ถ้าจะพูดถึงอาหารที่ได้คอลลาเจนสูงจากแหล่งธรรมชาติ อันดับแรกเลยเราก็จะนึกถึงเนื้อปลาทะเลอย่างแน่นอน จำพวก ปลาแซลมอล ทูน่า ปลาทู ด้วยความที่เนื้อปลาเป็นโปรตีนคุณภาพสูง ไขมันต่ำ และมีกรดไขมันโอเมก้าสูงอีกทั้งยังเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยคอลลาเจนที่ส่วนมากจะพบบริเวณเนื้อเยื่อของตาและหนังของปลา

 

2.มะเขือเทศ

มะเขือเทศเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ประโยชน์เปี่ยมล้นด้วยสารไลโคปีนในปริมาณที่สูงที่มีอยู่ในตัวมะเขือเทศ อีกทั้งยังไปช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลเจนใต้ผิวหนัง และยังช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอความแก่เพิ่มความแข็งแรงให้กับผิวของเราอีกด้วยค่ะ

 

3.กระดูกอ่อนของสัตว์

พูดถึงกระดูกอ่อนก็คงจะตกใจหรือไม่ก็สงสัยว่าจำเป็นถึงขนาดที่ต้องกินกระดูกเพื่อคอลลาเจนเลยหรอเนี่ย งั้นขอยกตัวอย่างอาหารสุดแซ่บให้เห็นภาพเลยแล้วกัน เช่น ตีนไก่ซุปเปอร์ ขาหมูตุ๋น เป็นต้น นั่นแหละของอร่อยที่คอลลาเจนแอบซ่อนอยู่ในนั้น จะสังเกตุได้ว่าเวลาเราทานเข้าไปมันจะเหนียวๆ หนืดๆ ยืดๆ หรือเวลาที่เราทิ้งน้ำต้มตีนไก่ไว้ในอากาศที่เย็นแล้วมันจะเกิดเป็นไขหรือวุ้น นั่นแหละคอลลาเจนชั้นเยี่ยม

 

4.ผักใบเขียวเข้ม

มนุษย์ที่ชอบกินผักเป็นชีวิตจิตใจก็ขอให้จงกินต่อไป และขอให้จำไว้ว่าผักใบเขียวเข้มจำพวก บล็อคโคลี่ ผักโขม ผักปวยเล้ง หน่อไม้ฝรั่ง คะน้า แตงกวา ผักกาดหอม หรือผักสลัด เป็นผักสีเขียวเข้มที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสำคัญที่เรียกว่า ลูติน ซึ่งจะไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังของเรานั่นเองค่ะ

 

5.สาหร่าย

ไม่ว่าจะเป็นสาหร่ายทะเลหรือสาหร่ายน้ำจืด ต่างก็ล้วนแต่มีส่วนประกอบของคอลลาเจนและสารต่อต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะสาหร่ายทะเลทุกชนิดซึ่งจะมีไฮยาลูโรนิกที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างคอลลาเจน อีกทั้งยังมีคุณค่าทางโภชนาการที่สูงอีกด้วยค่ะ

 

6.ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ทั้งหลายที่อาจจะเป็นของโปรดของสาวๆ และคนที่รักสุขภาพก็คงจะทราบกันดีถึงคุณประโยชน์ทางโภชนาการและมีวิตามินซีที่สูง อีกทั้งยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระตัวสำคัญที่มีชื่อว่าแอนโทไซยานินที่เป็นตัวไปเพิ่มการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเราแข็งแรงและสุขภาพดีอีกด้วยค่ะ

 

7.ถั่วเหลือง

ถั่วเหลืองรวมถึงน้ำเต้าหู้และนมถั่วเหลืองที่หลายคนชอบดื่มกันเป็นประจำ ซึ่งถั่วเหลืองเป็นแหล่งโปรตีนที่มีกรดอะมิโนเป็นโครงสร้างของคอลลาเจนและยังมีสารสำคัญคือ ไอโซฟลาโวน ที่เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระและเสริมฮอร์โมนเอสโตรเจนให้กับผู้หญิงวัยที่หมดประจำเดือนได้เป็นอย่างดี

 

8.กระเทียม

กระเทียมเป็นสมุนไพรที่เปี่ยมคุณค่าและประโยชน์ โชคดีของคนไทยที่ส่วนประกอบของอาหารส่วนมากจะเป็นกระเทียม ไม่ว่าจะตำ ยำ ผัด ต้ม ส่วนใหญ่จะมีกระเทียมเป็นส่วนผสม แต่ใครที่ไม่ชอบในกลิ่นแรงของกระเทียมก็ถือว่าน่าเสียดาย หรืออาจจะลองรับประทานในรูปแบบอื่นดูก็ได้ค่ะ กระเทียมอุดมไปด้วยซัลเฟอร์ ทั้งยังมีกรดไลโปอิกและกรดอะมิโนทอรีน ที่เป็นตัวช่วยในการเสริมสร้างคอลาเจนที่ถูกทำลายค่ะ

 

9.ไข่ขาว

ไข่ขาวเป็นโปรตีนที่มีกรดอะมิโนหลายชนิด นอกจากไขมันต่ำมากแล้วยังโปรตีนสูงโดยมีสารโพรลีนและไลซีนที่สามารถช่วยปรับเปลี่ยนไปเป็นคอลลาเจนได้

 

10.เนื้อไก่และเนื้อหมู

เนื้อไก่และเนื้อหมูก็เป็นอีกอาหารที่เรารับประทานกันเป็นประจำอยู่แล้ว และด้วยเนื้อเหล่านี้เป็นอาหารประเภทโปรตีนซึ่งในเนื้อสัตว์ที่เป็นโปรตีนก็จะมีส่วนประกอบของคอลลาเจนอยู่

 

11.น้ำมะพร้าว

น้ำมะพร้าว เย็นๆ หอมชื่นใจ ไม่ว่าจะชาวไทยหรือต่างชาติต่างก็นิยมดื่มกัน หวานอร่อยชื่นใจอย่างนี้ ประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการเพียบนะจะบอกให้ ซึ่งในน้ำมะพร้าวแสนอร่อยนี้มีส่วนประกอบของฮอร์โมนเอสโตรเจน ที่เป็นส่วนสำคัญที่ไปช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน นอกจากสดชื่นชุ่มฉ่ำแล้ว ผิวยังยืดหยุ่น สดใส กระชับ ได้อีก

 

12.ข้าวโอ๊ต

ข้าวโอ๊ต ธัญพืชเพื่อสุขภาพที่นอกจากจะมีกากใยสูงแล้วยังมีสารอาหารมากมาย ไหนจะสารต่อต้านอนุมูลอีสระอีกทั้งยังช่วยในการเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิว และช่วยชะลอความแก่ให้เราอีกด้วยแน่ะ

 

อย่างไรก็ดี การเลือกรับประทานอาหารที่ดีและเหมาะสมต่อความต้องการของเราและร่างกายแล้ว แต่นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถช่วย แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงเราได้ก็ต่อเมื่อเรา ดูแลตัวเองไม่ให้นอนดึก ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน รักษาปกป้องผิวจากแสงแดดและมลพิษต่างๆ รอบตัวอยู่เสมอค่ะ บางคนคิดว่าแค่กินอย่างเดียวก็ช่วยแล้ว ซึ่งมันก็มีหลายเหตุหลายปัจจัยที่ต้องการความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อีกอย่างบางอย่างที่กล่าวมาก็สามารถไปทำลายคอลลาเจนที่เราเพียรสร้างมานั่นก็เท่ากับว่าเราทำร้ายตัวเองโดยเปล่าประโยชน์ ทัศนะคติการคิดการมองโลกก็สำคัญเช่นกัน คนที่มองโลกในแง่ดีคิดบวกอยู่เสมอ ก็จะทำให้เรามีภาวะอารมณ์ที่ดีมีผลต่อจิตใจช่วยส่งผลให้ร่างกายเรามีความสดชื่นสดใสอยู่ทุกวันค่ะ

 

www.flickr.com/photos/elsombrerodepensar/5558285988/

REVIEW: Sensorial Paris Serum (Stem Cell)

skin-serum

✓ ทำการคิดค้นสูตรในประเทศฝรั่งเศษที่ไม่เหมือนใคร (EU)
✓ และได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP & FDA (USA)
✓ ที่มีจำหน่ายเฉพาะโดยตรงจากกรุงเทพมหานคร (BKK)

สวัสัดีค่ะ วันนี้ขอมารีวิวนิดนึงนะคะ ดีต่อใจขนาดนี้ก็คงต้องบอกต่อกันหน่อยอ่ะเนอะ หลายๆ คนคงทุกข์ทรมานกับใบหน้าที่ไม่เรียบเนียนไม่ว่าจะจากสิว ริ้วรอย หรืออะไรก็แล้วแต่ ความเจ็บปวดนี้ตัวเราเองเข้าใจดีค่ะ ลองผิดลองถูกมาก็เยอะและผลลัพท์ก็ช่วยได้บ้างช่วยไม่ได้บ้าง ส่องกระจกทีไรความคิดอยากตัดหัวทิ้งก็มาเป็นระยะๆ ช่วงอายุของเราก็เป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการดูแลผิวอยู่ค่อนข้างมากเหมือนกันนะคะ จะสังเกตุได้ว่าช่วงวัยรุ่นเวลาเป็นสิวแล้วทิ้งรอยไว้จะหายไวกว่าช่วงอายุที่เกิน 20 ปีขึ้นไป บางทีอะไรเดิมๆที่เคยใช้ในช่วงอายุนั้นอาจจะได้ผลดี แต่พอมาใช้ตอนช่วงอายุ 20-30 ปีขึ้นไปผลลัพท์กลับแทบไม่ค่อยเห็น ส่วนตัวเองแล้วเป็นคนที่ผิวหน้ามันและเป็นสิวแถมทิ้งร่องรอยเป็นอนุสรณ์ฝังใจอยู่ไม่น้อยค่ะ ปัญหาของเราหลักๆ เลยคือรอยหลุมสิว หน้าไม่เรียบเนียน ซึ่งก็ได้ปรึกษากับคุณหมอหลายท่านและได้ทดลองมาหลายอย่างหลายวิธีทั้งภายในภายนอก ยกตัวอย่างคร่าวๆ เช่น

  • การเลือกทานยาคุมกำเนิด
  • การเลือกทานยาสมุนไพร
  • การทายา ทาครีม
  • การทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคอลลาเจน
  • หรือแม้กระทั่งการปรับอาหารการกิน (เลือกกินอาหารที่ให้สารแอนตี้ออกซิแดนซ์สูง) ซึ่งต้องใช้เวลาและก็ต้องกินให้สม่ำเสมอในปริมาณที่ให้เพียงพอต่อร่างกายด้วย
  • และอื่นๆ อีกมากมาย

  ติดต่อสอบถามรายละเอียด ที่นี่!

จากการทดลองด้วยหลากหลายผลิตภัณฑ์

ระหว่างที่ได้ทดลองกับหลายๆ ผลิตภัณฑ์ไม่ว่าจะกับภายในหรือภายนอกล้วนแต่ก็ให้ผลลัพท์ที่แตกต่างกัน บางอย่างก็เห็นผลนิดหน่อยไม่เหมือนกับที่คาดหวังไว้ กับรอยหลุมรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวและริ้วรอยจากอายุที่เพิ่มขึ้นหรือสิ่งแวดล้อมมลพิษรอบด้านที่ส่งผลให้ผิวเราโดนย่ำยี ส่วนตัวเราเองก็ลองมาเยอะและทั้งหมดนั้นก็ไม่ค่อยจะช่วยให้เห็นผลลัพท์ที่พอใจไม่ตอบโจทย์ของเรา กระทั่งหันมาลองทำเลเซอร์ควบคู่ไปกับการทาเซรั่มตัวนึงซึ่งมาตอบโจทย์และทำให้สภาพผิวสุดแย่ของเรามันดีขึ้นค่ะ ซึ่งตอนแรกทำแค่เลเซอร์ยังไม่ได้ใช้เซรั่มเลยทำให้ทราบว่าหลังจากใช้เซรั่มนั้นมันช่วยทำให้สภาพผิวของเรามันดีขึ้นค่ะ ก็คือ

  1. Laser treatment
  2. Stem Cell serum with Filler + DNA

โดยส่วนตัวแล้วเคยลองใช้เซรั่มของ Stem Cell มาอยู่เหมือนกันค่ะไม่ว่าจะแบรนด์ของเมืองนอกเมืองไหนก็ลอง และก็ให้ผลลัพท์ที่ดีพอสมควรแต่ราคาก็แพงพอสมควรเช่นกัน พอได้มาเจอผลิตภัณฑ์ตัวนี้เมื่อลองใช้แล้วผลลัพท์ได้เท่ากันแต่ราคาต่างกันลิบลับนี่ เลยไม่อยากจะพลาดที่จะมาแนะนำกันค่ะ ถ้าคุณมีความจริงจังกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สักตัวที่ได้ผลที่ดีกับผิวของคุณ และเหนื่อยกับการที่หมดเงินแถมหน้าพังไปกับครีมที่โฆษณาตามท้องตลาดล้านเราแล้ว  Sensorial Paris Serum (Stem Cell) with Filler + DNA เซรั่มที่บอกเลยว่าคุณภาพนั้นเกินราคาจริงๆ ค่ะ

  ติดต่อสอบถามรายละเอียด ที่นี่!

Sensorial Paris 3-in-1 serum (stem cell) review

อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงตรงนี้แล้วการที่มารีวิวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ตัวนี้ก็เนื่องด้วยเป็นผลลัพท์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง และก็อยากแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเองที่เห็นว่ามันดีจึงบอกว่าดี และด้วยสินค้าตัวนี้เป็นสินค้าที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมายอีกทั้งยังได้รับมารตฐานการยอมรับจากทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงเหตุผลว่าทำไมถึงตัดสินใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ ดังนี้ค่ะ

  • FDA : ซึ่งกว่าจะได้รับการผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐานจากทางรัฐบาลสหรัฐอเมริกานั้นเป็นขั้นตอนที่ยากและหลายกระบวนการมากซึ่ง Sensorial Paris มีและผ่านค่ะ #10-1-5713234
  • EU Certified (via France) : ได้การรับรองสูตรจาก Skin Biotech Contract Laboratory จากประเทศฝรั่งเศษ
  • GMP : ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก GMP
  • Alpine Alps Rose Stem Cell : สเต็มเซลล์เข้มข้นจากกุหลาบพันปี ที่มีอยู่ใน Sensorial Paris จากผลงานการวิจัยร่วมกันกับ Skin Biotech Contract Laboratories ประเทศฝรั่งเศสและอเมริกา ค้นพบคุณสมบัติของกุหลาบจากเทือกเขาแอลป์ ประเทศฝรั่งเศสและสวิสเซอร์แลนด์ ที่ระดับความสูง 1500 – 2800 เมตรจากน้ำทะเล ถือว่าเป็นเซลล์ต้นกำเนิดของสเต็มเซลล์ที่มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับสเต็มเซลล์ของมนุษย์และปลอดภัย เพื่อใช้สกัดเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต้านความชราแห่งผิว ช่วยเติมเต็ม ฟื้นฟู และกระตุ้นการสร้างสเต็มเซลล์จากผิวชั้นใน ลดริ้วรอยและเพิ่มความยืดหยุ่น และมากไปกว่านั้น Sensorial Paris ยังเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่นำเอาสเต็มเซลล์จากกุหลาบพันปีผสานกับ Bio Placenta ที่มีคุณสมบัติเป็น Growth Factor เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวและเร่งการผลิตสเต็มเซลล์ภายใต้ผิวได้ด้วยตัวเอง
  • Hyaluronic Acid Wrinkle Fillers  ไอยาลูลอนิค แอซิด ฟิลเลอร์ ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินธรรมชาติ และคงสภาพผิวหน้าให้แลดูอ่อนกว่าวัย
  • DNA Serum : ดีเอ็นเอ เซรั่ม โดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Water Energy  เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ เพื่อทำการซ่อมแซมผิวตาม ธรรมชาติและป้องกันความเสียหายของผิวจากการ ทำความสะอาดผิวและขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ลดรอยตีนกา ริ้วรอยต่างๆ พร้อมยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ผิวแลดูเรียบเนียน
  • ราคาที่สมเหตุสมผล : ถ้าเปรียบเทียบกับคุณภาพแล้ว ราคาของผลิตภัณฑ์ถือว่าคุ้มค่าค่ะ
  • การขนส่งสินค้าที่รวดเร็ว : ถึงแม้ว่าทางแบรนด์จะมีหุ้นส่วนและการรับรองจากต่างประเทศ แต่่ทาง Sensorial Paris จะทำการขนส่งสินค้าโดยตรงจากสำนักงานใหญ่ในประเทศไทย นั่นก็หมายความว่า เร็ว ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องจ่ายค่าขนส่ง เสียค่าภาษี มีปัญหากับสินค้าล่าช้าเลยล่ะค่ะ
  • มีความเป็นมืออาชีพและน่าเชื่อถือ : เริ่มจากการเป็นลูกค้าซื้อเซรั่มมาใช้เองจนตอนนี้เริ่มมาขายเอง ด้วยความที่ประทับใจจากการพูดคุยกับทางแบรนด์เองที่มีความกันเองและจริงใจ มีความรับผิดชอบต่อสินค้าและความเป็นมืออาชีพที่น่าเชื่อถือ เป็นเหตุผลที่สำคัญต่อการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของทางแบรนด์เลยแหละค่ะ

สุดท้ายนี้ หวังแค่ว่าการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพระดับพรีเมี่ยมให้กับคนที่อ่านบล็อคนี้ จะได้ประโยชน์และคุ้มค่าจากการทดลองด้วยตัวเองเหมือนอย่างเจ้าของบล็อคนะคะ ยังไงก็สามารถมาบอกกล่าวเล่าสู่กันฟังได้ค่ะ อีกทั้งทางเราก็ไม่รอช้าและได้ไปหาโปรโมชั่นดีๆ มาบอกต่อกันด้วยแหละ ถ้าสนใจติดต่อเข้ามาได้ค่ะ

ส่งข้อความได้ทาง Facebook และจัดส่งสินค้าฟรีทั่วประเทศไทย

ถ้าสนใจและพร้อมที่จะเลือกลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า รวมถึงให้ผลลัพท์ที่ดีและชัดเจนจากคุณภาพและความเข้มข้นของ Stem Cell ที่เต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะผิวหน้า ลำคอ หรือแม้กระทั่งหน้าอก เซรั่มตัวนี้เป็นตัวที่เหมาะสมต่อสภาพผิวที่แม้แต่บอบบางหรือแพ้ง่ายค่ะ เพราะโดยส่วนตัวแล้วเป็นคนผิวแพ้ง่ายมากถือว่าตัวนี้ตอบโจทย์ การจัดส่งสินค้าเราจัดส่งให้ฟรีทั่วประเทศไทยค่ะ

  ติดต่อสอบถามรายละเอียด ที่นี่!

7 ประโยชน์สุดยอดจากแอปเปิ้ลสีชมพู

pink-apple-1
Source: Flickr (click image for link)

วันนี้มาถึงประโยชน์ของ แอปเปิ้ลสีชมพู กันบ้าง จากโพสที่แล้วเป็นแอปเปิ้ลสีเขียวไป ผลไม้ที่เป็นผลไม้ยอดนิยมอย่างแอปเปิ้ลนี้นอกจากรสชาติที่แสนอร่อยแล้วยังมีหลากหลายสีให้เลือกจับจ่ายกันหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด กับประโยชน์ที่มากมายล้นเหลือและในหลายๆคนอาจจะชอบปอกเปลือกก่อนรับประทานเพื่อความสะอาดหรือสวยงามหรือยังไงก็ตามแต่ แต่ทราบหรือไม่ว่าสารสำคัญต่างๆส่วนใหญ่จะอยู่ที่เปลือกแอปเปิ้ลนั่นเองค่ะ จากข้อมูลของแอปเปิ้ลโพสก่อนๆ เราก็ได้บอกกันไปแล้วยังไงก็เลือกรับประทานแอปเปิ้ลทั้งผลจะดีกว่าเนื่องจากได้รับประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการอย่างเต็มที่นะคะ จากข้อมูลของ USDA Nutrient database ของกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกาพบว่าแอปเปิ้ลสีชมพูนั้นมีคุณค่าทางโภ­­­ชนการดังนี้ แอปเปิ้ลสีชมพู มีพลังงาน 63 กิโลแคลอรี่ มีน้ำ 84.16 กรัม น้ำตาล 11.68 กรัม ไฟเบอร์ 2.1 กรัม และโพแทสเซียม 109 กรัม ยังมีแร่ธาตุที่มีความสำคัญอย่างมากต่อร่างกายเช่น วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 วิตามินเอ กรดโฟลิก วิตามินซี แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสีและเหล็ก ยังไม่หมดแค่นั้นในแอปเปิ้ลยังประกอบไปด้วย คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน ที่สำคัญในแอปเปิ้ลแต่ละสียังมีประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไปค่ะ

 

 

7 ประโยชน์สุดยอดที่คุณควรเลือกกินแอปเปิ้ลสีชมพู

pink-apple-2
Source: Flickr (click image for link)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

1.ชะลอความแก่

ให้เป็นประโยชน์ข้อแรกของแอปเปิ้ลสีขมพูกันเลยค่ะ เนื่องจากจุดเด่นของแอปเปิ้ลสีชมพูนั้นก็คือ แอปเปิ้ลสีชมพูจะมีกรดโฟลิคมากที่สุดในบรรดาแอปเปิ้ลด้วยกัน ซึ่งเจ้ากรดโฟลิคจะไปช่วยชะลอความแก่กระตุ้นกระบวนการสร้างคอลาเจน และยังช่วยทำให้ผิวแข็งแรงไม่ต้องกลัวแดด และลดริ้วรอยก่อนวัยชะลอวัยแก่ รวมถึงสาวๆที่มีปัญหาการเกิดฝ้าค่ะ ผลไม้ที่เรียกว่าแอปเปิ้ลสีชมพูตัวนี้นี่แหละค่ะที่จะช่วยตอบโจทย์คุณได้มากเลยทีเดียวค่ะ

 

2.ข่วยให้อิ่มนานและไม่หิวบ่อย

น้ำตาลฟรักโทสที่อยู่ในแอปเปิ้ลเป็นน้ำตาลที่เปลี่ยนรูปไปเป็นพลังงานอย่างช้าๆ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้น ไม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนเวลาที่เรากินขนมหวานอื่นๆ ทำให้รู้สึกอิ่มนานและไม่หิวบ่อยค่ะ

 

3.ผิวพรรณเปล่งปลั่ง

แอปเปิ้ลชมพูส่วนใหญ่แล้วแอปเปิ้ลสีนี้จะออกสีชมพูอมแดง และแอปเปิ้ลสีชมพูนี้มีปริมาณวิตามินซีมากถึง 1 ใน 4 ของปริมาณของวิตามินซีที่ควรได้รับต่อวัน โดยวิตามินซีนั้นมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี ผิวพรรณจึงเปล่งปลั่งเรียบเนียน ซึ่งวิตามินซีและสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ที่พบในแอปเปิ้ลสีชมพูนั้นจะไปช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินซี ทำให้ผนังหลอดเลือดฝอยแข็งแรง ลดการอักเสบ ลดไข้ รวมทั้งช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟันได้ด้วย เนื่องจากแอปเปิลสีชมพูจะมีแคลเซียมและวิตามินซีมากกว่าพวกจึงช่วยในด้านสุขภาพทางช่องปากลดอาการเลือดออกตามไรฟันได้ดีอีกด้วยค่ะ

 

4.ช่วยในการควบคุมน้ำตาลในเลือด

ถึงแม้ว่าแอปเปิ้ลจะมีน้ำตาลธรรมชาติมาก แต่น้ำตาลนี้จะเพิ่มขึ้นในเลือดอย่างช้าๆ ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ นอกจากนั้นยังพบว่าคนที่กินอาหารที่มีใยอาหารมากๆ มีโอกาสเป็นเบาหวานต่ำกว่าคนที่กินใยอาหารน้อย

 

5.ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้

เปลือกและเนื้อของแอปเปิ้ลมีเส้นใยอาหารที่ชื่อว่าเพคติน และเส้นใยตัวนี้มีคุณสมบัติพองตัว จึงช่วยเพิ่มกากใยในทางเดินอาหาร ช่วยให้ขับถ่ายได้ดี ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ แถมยังช่วยจับคอเลสเตอรอลไม่ให้ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย จึงช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด ลดความดันโลหิตสูงและป้องกันโรคหัวใจได้

 

6.ช่วยกำจัดสารพิษ  

โดยเปลือกของแอปเปิ้ลก็มีความสำคัญ เพราะมีสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ กำจัดสารพิษในร่างกาย การกัดกินแอปเปิลทั้งผลพร้อมเปลือกร่างกายจะได้ประโยชน์มากกว่าปอกเอาเปลือกออก แต่ก่อนกินควรล้างน้ำให้สะอาดเพื่อลดสารพิษที่ติดอยู่ที่ผิวเปลือกด้วย

 

7.ช่วยบำรุงปอดทำให้ปอดแข็งแรง

เนื่องจากในผลแอปเปิ้ลมีสารเคอร์ซีทิน ที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดอย่างได้ผลช่วยให้ปอดแข็งแรง และยังช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดสมองอีกด้วยค่ะ

 

 

www.flickr.com/photos/vegan-baking/4107712628/

www.flickr.com/photos/lindaaslund/6149877082/