Browse Tag: chocolate

5 ชนิดของอาหารที่ทำให้เกิดสิว ที่คุณต้องรู้

fast-foods-1
Source: Flickr (click image for link)

ถ้าพูดถึงเรื่องของสิวๆ ที่เขาบอกว่าสิวนั้นเกิดขึ้นจากการที่คุณล้างหน้าไม่สะอาดพอ หรือเพราะฮอร์โมนที่หลั่งออกมาจากรูขุมขนมากจนเกินไปแล้ว หลายๆ คนที่กำลังสงสัยจนกลายเป็นก่อให้เกิดความเป็นกังวลว่าทำไมสิวถึงได้ขึ้นตามบนใบหน้าของเราหนักหน่วงนัก ทั้งๆที่ก็นอนหลับผักผ่อนอย่างเพียงพอแล้ว รักษาความสะอาดตามใบหน้าก็แล้ว ไหนจะไม่ได้มีปัญหาเรื่องของการใช้ครีมที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ก่อเกิดสิวเลยซักนิด แต่ก็ยังจะเป็นสิวอยู่นั่น  หากยังสงสัยกันอยู่ละก็ว่าทำไมถึงมีสิว วันนี้เรามีอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวได้นั้นก็คือ อาหารที่เรารับประทานกันอยู่เป็นประจำนั้นเอง แล้วรู้รึเปล่าว่าอาหารการกินนั้นเป็นส่วนมีผลทำให้การหลั่งไหลของสารไขมันนั้นขับออกมามากเกินกว่าที่กำหนดเอาไว้ จนเป็นเหตุให้เกิดการอุดตันของสิว เพราะงั้นวันนี้  HealthGossip จึงอยากมาพูดถึงอาหารต้องห้ามที่ทำให้เกิดสิว ใครที่ลองรักษาสิวยังไงก็ไม่หายสักที ลองมาดูเรื่องอาหารการกินสักหน่อย เพราะการกินอาหารที่ไปกระตุ้นการเกิดสิวนั้น อาจจะเป็นสาเหตุที่เราคาดไม่ถึงก็เป็นได้ เพื่อเป็นแนวทางที่ดีที่คุณๆจะได้ศึกษาแล้วลดลงปริมาณการรับประทานอาหารชนิดนั้นลง

 

5 ชนิดของอาหารที่ทำให้เกิดสิว

 

1.ขนมปัง มันฝรั่งทอด เบเกอร์รี่ทุกชนิด

อาหารที่มีส่วนประกอบหลักที่เป็นแป้งกับน้ำตาลนี่ไม่ควรกินอย่างยิ่ง เลี่ยงได้ขอให้เลี่ยงเลยแม้จะทำใจยากซักหน่อยแต่ก็ปรับให้น้อยลง เพราะการที่เรากินน้ำตาลเยอะๆจะทำให้เซลล์ผิวของเราเกิดการแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้เกิดไขมันไปอุดตันที่ผิวหนังได้ ด้วยเหตุนี้ทำให้เวลาที่เรากินพวกขนมปัง ของทอดๆ มันฝรั่งกรุบกรอบ แล้วสิวชอบขึ้นแถมรักษาไม่ค่อยหายก็เพราะสาเหตุนี้นั่นเองค่ะ หรือง่ายๆว่า อาหารที่มีรสชาติหวานที่ใส่น้ำตาลเยอะๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำผัก น้ำผลไม้ น้ำหวานน้ำอัดลม รวมไปถึงขนมหวานทั้งหลาย หรืออาหารที่ทำจากแป้ง เช่นขนมขบเคี้ยว ขนมปัง

 

2.ขนมหวาน ช๊อคโกแลต ขนมเค้ก

เป็นอาหารที่อดใจกินได้ยากจริงๆ แต่ละอย่างทั้งหอม หวาน มัน อร่อยลืมอ้วนกันไปเลยทีเดียว แต่ด้วยความที่มันหวานนี่แหละที่จะทำให้สิวผุดขึ้นมาบนหน้าได้อย่างง่ายดาย เพราะเมื่อร่างกายเราได้รับน้ำตาลในปริมาณมาก มันจะไปสร้าง “อินซูลิน” เพื่อมาลดระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ ซึ่งการสร้างอินซูลินนี้มันมีผลทำให้ผิวหน้าเราสร้างไขมันเพิ่มขึ้น เมื่อมีความมันเพิ่มขึ้นก็อาจทำให้ผิวอุดตัน เกิดเป็นสิวได้ง่ายขึ้นเช่นกัน ด้วยเหตุนี้เราถึงควรงด อาหาร ขนม ของหวานทุกชนิดหากต้องการลดการเกิดสิว

 

3.นมวัว

เห็นไม่ผิดหรอกค่ะ และหลายคนก็คงจะแปลกใจว่านมเนี่ยนะ ก็เพราะว่าในนมวัวจะมีสารฮอร์โมนหลายชนิดซึ่งอาจเป็นฮอร์โมนที่เกิดจากวัวเอง หรือเป็นฮอร์โมนที่วัวได้รับจากการเลี้ยง ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้จะไประตุ้นการเกิดสิว อีกทั้งนมวัวเป็นโปรตีนที่ย่อยยาก ทำให้เกิดการหมักหมมในกระเพาะอาหารและทำให้การเจริญเติบโตของยีสต์ เมื่อมีเพิ่มมากขึ้น ก็จะไปกระตุ้นให้เกิดสิวอุดตันได้ง่ายมากขึ้นนั้นเอง โดยเราสามารถเลือกรับประทานไข่ เต้าหู้ ถั่วต่างๆ ปลาตัวเล็ก และเนื้อสัตว์เพื่อทดแทนโปรตีนและแคลเซียมจากนมได้ค่ะ

 

4.อาหารฟาสฟู้ดส์ (Fast foods) อาหารที่มีไขมันสูง

อาหารที่มีไขมันสูงแบบตะวันตก คนหลายๆคนอาจจะเชื่อกันว่าการกินไขมันมากๆก็จะสามารถทำให้เกิดการมันของใบหน้าตามไปด้วยแล้วจะทำให้เกิดสิว แต่ทว่ากลไกที่แท้จริงแล้วมันกลับไม่ได้ตรงไปตรงมาแบบนั้น เพราะเป็นที่สังเกตกันว่า สภาวะของโรคสิวในสังคมตะวันตกจะมีมากกว่าสังคมตะวันออกอย่างชัดเจน โดยพบว่าเมื่อคนแถบเอเชียย้ายไปอยู่ในทางตะวันตก หรือกินอาหารแบบตะวันตก ก็มีการเกิดสิวมากขึ้น กลไกที่ทำให้เกิดสิวในอาหารแบบตะวันตกที่สำคัญ ก็คือไขมันที่ใช้ในอาหาร โดยไขมันที่ใช้ในอาหารแบบตะวันตกมักจะเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดโอเมก้า6 ที่พบมากในน้ำมันพืชหรือน้ำมันพืชที่ผ่านกรรมวิธีอย่างเช่นพวกมาการีนหรือเนยเทียม ซึ่งกรดไขมันกลุ่มนี้สามารถชักนำให้ร่างกายสร้างสารที่ก่อการอักเสบเพิ่มขึ้น ทำให้หากมีสิวก็จะเกิดเป็นสิวอักเสบมากขึ้น  ดังนั้นหากมีสิว วิธีที่น่าลองอีกอย่างหนึ่งก็คือหลีกเลี่ยงอาหาร Fastfood ทั้งหลายดู รวมไปถึงอาหารไทยๆแบบผัดหรือทอดน้ำมันพืชเยิ้มๆ

 

5.เหล้า เบียร์ ไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด

การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็น เหล้า เบียร์นั้นเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดสิวได้เป็นอย่างดี เพราะแอลกอฮอร์นั้นเมื่อเข้าสู่ร่างกายมันก็จัดเป็นสารพิษที่ร่างกาย โดยสาเหตุนั้นเกิดจาก ยีสต์เติบโตและเกิดเป็นท็อกซินเป็นของเสียในร่างกายและกระตุ้นทำให้เกิดสิวได้ง่ายๆ  ต้องกำจัดออกไปโดยเร็วที่สุด ส่วนใหญ่ก็จะออกไปทางปัสสาวะ แต่แอลกอฮอร์ไม่ได้ออกไปอย่างเดียว น้ำในร่างกาย ในผิวของเราก็ออกไปด้วย ทำให้เวลาที่เราดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์มากๆเราจะรู้สึกว่าคอแห้ง ต้องการดื่มน้ำ เมื่อผิวของเราขาดน้ำร่างกายก็เลยขาดความสมดุลสารพิษก็ตกค้างอยู่ในร่างกาย ทำให้เกิดการขับถ่ายของเสียออกทางผิวหนัง จึงเกิดเป็นสิวออกมาให้เราได้เชยชมกัน

 

จริงๆแล้วปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวนั้นอาจมีมากมายหลายพันแปด แต่เรื่องอาหารการกินนั้นก็เป็นปัจจัยหลักๆที่ทำให้เกิดสิวได้เช่นกัน บางครั้งเรามัวแต่ไปรักษาจากภายนอกซะมากกว่า ซึ่งนั่นอาจเป็นการรักษาสิวที่ปลายเหตุ ซึ่งการรักษาแบบนี้อาจไม่ทำให้สิวหายอย่างยั่งยืนได้ หยุดใช้ก็อาจจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก กลับมาดูต้นเหตุของปัญหากันดีกว่าเนอะ ไม่แน่นะปัญหาสิวที่จัดการไม่ได้สักทีเนี่ยอาจจะจัดการได้ด้วยการปรับพฤติกรรมการกินก็ได้ใครจะรู้ และก็หวังว่าความรู้วันนี้จะเป็นแนวทางในการเลือกรับประทานอาหารกันได้นะคะ

 

www.flickr.com/photos/vilseskogen/4758320476/

10 ประโยชน์จากดาร์กช็อกโกแลตที่คุณไม่รู้

 

dark-chocolate-1ช็อกโกแลตมีประโยชน์ด้วยแหละรู้มั้ย? โดยเฉพาะดาร์กช็อกโกแลต (Dark chocolate) หรือที่เราเรียกกันว่า “ช็อกโกแลตดำ” และเราก็เป็นอีกคนที่ชอบกินช็อกโกแลตมากถึงมากที่สุดเลยทีเดียวเชียวคะ แต่แล้วบางทีมันก็มาพร้อมกับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นโดยที่ไม่ได้ตั้งตัว (ตอนซื้อไม่เห็นจะคิดก่อนเลย) และสิวก็เห่อตามมาด้วย ฮือออ หลังจากหลอกตัวเองมานานว่าช็อกโกแลตไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับน้ำหนักและสิวที่เพิ่มขี้นแต่อย่างใด จากทันทีที่ทราบว่าความจริงแล้วช็อกโกแลตนั้นมีประโยชน์ต่างหากล่ะยะ แต่แล้วไหงน้ำหนักขึ้นเอาๆ สิวก็ไม่เห็นจะลาจากฉันไปเลยแม้แต่น้อย แล้วมีประโยชน์ตรงไหนเนี่ย? แหม..ก็เจ้าช็อกโกแลตมันก็มีหลากหลายประเภทยังไงล่ะ อย่างเช่น โกโก้หรือมิลค์ช็อกโกแลต แต่เจ้าสองตัวนี้เป็นตัวอันตรายนะไม่ได้ช่วยอะไรในระบบร่างกายเลย นอกจากเพิ่มน้ำตาลในเลือดและทำให้อ้วน! อ้องิ๊นี่เองเราก็กินตั้งนาน ก็มันทั้งหอมทั้งอร่อยกลมกล่อมนี่เนอะกินทีไรไม่เคยจะเบื่อ อ๊ะแล้วงิ๊แบบไหนกันล่ะที่บอกว่ามีประโยชน์ ? ก็แบบดาร์กช็อกโกแลต (Dark chocolate) หรือ”ช็อกโกแลตดำ” นั่นเองคะ ที่จะมีรสชาติขมๆและก็มีสีที่ดำเข้ม เดี๋ยวมาดูกันค่ะว่ามันมีประโยชน์ยังไงบ้าง

 

ช็อกโกแลตมีกี่ชนิด

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าช็อกโกแลตมีกี่ชนิด

1.Dark Chocolate (ดาร์กช็อกโกแลต) ช็อกโกแลตเข้มข้น มีส่วนประกอบของ โกโก้ลิคเคอ ไขมันโกโก้ น้ำตาล และ อาจแต่งกลิ่นวานิลา ดาร์กช็อกโกแลตมีรสเข้มข้นกว่า มิลค์ช็อกโกแลต และไวท์ช็อกโกแลต โดยปกติแล้วนิยมนำไปเป็นส่วนประกอบสำหรับทำอาหารได้

2.Milk Chocolate (มิลค์ช็อกโกแลต) ช็อกโกแลตที่มีเหมือนกับดาร์กช็อกโกแลตเพียงเพิ่มส่วนประกอบของนมเพิ่มเติม ทำให้มีรสชาติหวาน มัน และรสนุ่มลมุนลิ้นมากกว่าดาร์กช็อกโกแลต

3.White Chocolate (ช็อกโกแลตสีขาว) เป็นช็อกโกแลตที่ไม่มีส่วนผสมของ โกโก้ลิคเคอ แต่มีส่วนผสมของโกโก้บัตเตอร์  น้ำตาล นม และแต่งกลิ่น อาทิเช่น วานิลา ซึ่งมีความหวานมัน มากที่สุดในบรรดาช็อกโกแลตสามชนิด

 

ดาร์กช็อกโกแลตคืออะไร

ดาร์กช็อกโกแลตเป็นช็อกโกแลตที่ทำจากพืช ซึ่งประกอบด้วยประโยชน์ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพจากผักสีเข้ม ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระ (Flavonoids) เกือบ 8 เท่า เมื่อเทียบกับสารต้านอนุมูลอิสระในผลสตอร์เบอร์รี่  ช่วยผ่อนคลายความดันโลหิตผ่านการผลิตไนตริกออกไซด์และสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย ถ้าอย่างนั้น ช็อคโกแลตมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าน้ำผลไม้จริงหรือ ? นักวิจัยจาก Hershey Center for Health & Nutrition ได้เปรียบเทียบสารอาหารและโภชนาการในดาร์กช็อคโกแลตกับน้ำผลไม้ พบว่าในดาร์กช๊อกโกแลตนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระหรือ antioxidant ในปริมาณที่มากกว่า โดยผลิตภัณฑ์จากโกโก้นั้นมีระดับของสารต้านอนุมูลอิสระที่เอาชนะผลไม้ดีๆอย่างบลูเบอร์รี่หรือแครนเบอร์รี่ได้ ถึงขนาดที่ยกให้เมล็ดโกโก้นั้นเป็น “super fruit” และให้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากโกโก้เป็น “super foods” เลยทีเดียวเชียวค่ะ 

 

10 ประโยชน์จากดาร์กช็อกโกแลต

  1. สวยท้าแดด ดาร์กช็อกโกแลต มีสาร“ฟลาโวนอยด์” (Flavonoid) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และเป็นชนิดเช่นเดียวกับไวน์แดง พืชผัก ผลไม้ และใบชา จึงช่วยปกป้องผิวจากแสงยูวีได้นั่นเอง
  2. ผิวนุ่มชุ่มชื้น ดาร์กช็อกโกแลตอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก, แคลเซียม, วิตามิน A, B1, C, D และวิตามิน E ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นธาตุอาหารที่เกี่ยวข้องกับการบำรุงผิวพรรณให้นุ่มชุ่มชื้น ดูมีชีวิตชีวาได้อีกด้วยย
  3. ลดความเครียดส่งผลให้แก่ช้า ดาร์กช็อกโกแลตก็สามารถชะลอการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนผิวได้ โดยนักวิทยาศาสตร์ก็ได้อธิบายว่า ธาตุอาหารต่าง ๆ ในดาร์คช็อกโกแลตจะช่วยปรับฮอร์โมนของเราให้เป็นปกติและเร่งร่างกายให้ขับสารเอนโดรฟีนหรือฮอร์โมนแห่งความสุขออกมา จึงทำให้คนที่ได้กินดาร์กช็อกโกแลตเข้าไปอารมณ์ดี๊ดี ลดความเครียดที่มีและเมื่ออารมณ์ดีก็จะส่งผลไปถึงสุขภาพผิวพรรณให้สวยสดใสเปล่งปลั่งไร้ริ้วรอยนั่นเอง
  4. ช่วยลดคอเรสเตอรอล จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ ในสหรัฐอเมริกา เผยว่า สารฟลาโวนอยด์ในดาร์กช็อกโกแลตนั้นช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลื­­­อดได้ และยังช่วยปรับสมดุลความดันโลหิตได้อีกด้วย เพราะช็อกโกแลตชนิดนี้มีกรดโอเลอิกสูง ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ดีต่อร่างกาย
  5. บำรุงหัวใจและเลือด จากผลการวิจัยของประเทศสวีเดนเผยว่า การกินดาร์กช็อกโกแลตอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งช่วยลดความเสี่ยงเ­­­สียชีวิตด้วยโรคหัวใจได้สูงถึงร้อยละ 44 ทั้งนี้เป็นเพราะปริมาณสารฟลาโวนอยด์ในดาร์กช็อกโกแลตนั้นช่วยป­­­รับสมดุลความดันโลหิต เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปหล่อเลี้ยงหัวใจมากขึ้น ช่วยขยายหลอดเลือด ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัวที่จะทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดตีบตันในเว­­­ลาต่อมา ด้วยความที่ดาร์กช็อกโกแลตแท่งสีดำเข้มนั้นอุมดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่สำค­­ัญต่อร่างกาย เช่น โพแทสเซียม สังกะสี แมกนีเซีย และธาตุเหล็ก จีงช่วยบำรุงเลือดของเราให้เกิดการไหลเวียนได้ดีขึ้น ทำให้เราห่างไกลจากภาวะโลหิต โรคเบาหวานประเภท 2 โรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง
  6. ช่วยให้ความจำดีขึ้น ดาร์กช็อกโกแลตเพิ่มการไหลเวียนของเลือดให้ไปเลี้ยงสมองมากขึ้น­­­ ทำให้เราจดจำอะไรได้ดีขึ้น จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัย Nottingham ในประเทศอังกฤษ เผยว่า สารฟลาโวนอยด์ในโกโก้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจดจำของสมองให้น­­­านมากขึ้นถึง 2-3 ชั่วโมง
  7. เร่งผมยาวผมสลวยสวยเก๋ ดาร์กช็อกโกแลตมีทั้งธาตุเหล็ก, แคลเซียม, สังกะสี และทองแดง ซึ่งมีส่วนช่วยเร่งการผลัดเซลล์ใหม่ แถมยังมีสรรพคุณในเรื่องการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจน จึงส่งผลให้หนังศีรษะมีสุขภาพดีทำให้ผมหนาและสลวยเงางามไปด้วย
  8. ลดอาการซึมเศร้า ดาร์กช็อกโกแลตมีสารเซโรโทนินโดพามีนและฟีนิลไทลามีน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่สามารถช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ ก็ในดาร์กช็อกโกแลตมันมีสารที่มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์โมโนเอมินเอ็กซิเดส หรือเรียกสั้นๆว่า ‘’MAO inhibitor’’ ที่มีส่วนคล้ายคลึงกับยา anti-depressent ที่ใช้กับโรคซึมเศร้านั่นเอง และเจ้า MAO inhibitor จะไปทำให้สารสื่อประสาทต่างๆ สามารถทำงานได้ดีขึ้น พอส่วนต่างๆทำงานได้ดีขึันแล้วความคิดของคุณก็จะแจ่มใสขึ้นตามมา รู้อย่างนี้แล้วเมื่อรู้ตัวว่ากำลังเศร้า เหงาซึม หาทางออกไม่เจอ ก็ลองหยิบดาร์กช็อกโกแลตมากินเพลินๆสักนิดนะคะ
  9. ความอยากอาหาร การทานช็อกโกแลตจะทำให้สมองกลีบหน้าทำงานดีขึ้น กล่าวคือ มันเป็นศูนย์กลางที่สามารถลดความอยากอาหารให้กับคุณได้ รู้อย่างนี้มีดาร์กช็อคโกแลตติดกระเป๋าสักแท่งนี่ไม่เลวเลยน้าา
  10. การลดน้ำหนัก ข่าวดีสำหรับสาวๆที่อยากลดน้ำหนักกัน คือ มีการวิจัยที่พบว่า คนที่ทานช็อกโกแลตในปริมาณที่ปกติจะมีรูปร่างที่เล็กลงกว่าคนที่ไม่ทานช็อกโกแลตเลย  เพียงแต่การทานช็อกโกแลตนั้นต้องทานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินไปเพราะอาจทำให้คุณมีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นแทนได้

 

นอกจากเรื่องความสวยความงามแล้ว “ดาร์กช็อกโกแลต” ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดในสมอง เพราะในช็อกโกแลตมีแมกนีเซียม แมงกานีส ทองแดง สังกะสี และฟอสฟอรัสในปริมาณมาก ซึ่งสารอาหารทั้งหลายเหล่านี้ยังช่วยให้กระดูกของคุณแข็งแรงได้อีกด้วย

 

ปริมาณที่เหมาะสมในการรับประทาน

ดาร์กช็อกโกแลตนั้นถึงแม้จะมีประโยชน์ที่มากมายหลายหลากขนาดนี้ แต่เราก็ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมนะคะ เพราะยังไงในดาร์กช็อกโกแลตก็ยังคงมีน้ำตาลและนมผสมอยู่บ้าง ซึ่งปริมาณที่แนะนำต่อวันก็คือ 100 กรัมกำลังดีค่ะ เพราะถ้ากินมากกว่านี้อาจจะทำให้อ้วนได้เหมือนกันน๊าา

 

ข้อยกเว้นที่ควรทราบ

ความจริงแล้วช็อกโกแลตก็มีข้อยกเว้นในบางกรณืเหมือนกันค่ะ คือช็อกโกแลตนั้นมีข้อจำกัดบางประการกับคนที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพที่่ป่วยเป็นโรคไตและไมเกรน หากกินเข้าไปแล้วอาจเกิดผลเสียมากกว่าผลดี

สำหรับคนที่เป็นไมเกรน  คือในช็อกโกแลตนั้นมีสารเคมีที่ชื่อ ไทรามีน (Tyramine) ที่จะยิ่งทำให้การไหลเวียนของเลือดอยู่ในระดับต่ำลง อาการปวดไมเกรนอาจหนักขึ้นกว่าเดิม

สำหรับคนที่เป็นโรคไต  ช็อกโกแลตเป็นอาหารที่มีกรดออกซาลิกสูง หากผู้ป่วยโรคไตกินเข้าไปอาจทำให้เกิดผลึกแคลเซียมออกซาเลทสะส­มเป็นก้อนนิ่วในกรวยไตมากขึ้น

 

การเลือกดาร์กช็อกโกแลตที่ดี

สำหรับการเลือกซื้อดาร์กช็อกโกแลตให้ดูเปอร์เซ็นต์ของโกโก้ที่ผสมในช็อกโกแลตยิ่งมากเท่าไรก็ยิ่งดีค่ะ ส่วนเราเองทานขมได้ค่ะเราจะเลือกโกโก้ 72% นั้นขมกำลังดีค่ะไม่มากไม่น้อยแต่ก็แอบเคยลองทานแบบ 85% เลยเหมือนกัน อยากบอกว่ามันขมจริงๆค่ะขนาดว่าทานขมได้ยังกลืนลำบากเลยค่ะ แต่ก็ลองทานแบบชิ้นๆเล็กให้ละลายในลิ้นแล้วค่อยกลืนช้าๆ ประมาณนั้น กก็ช่วยได้ในระดบหนึ่งเหมือนกัน ถ้าอยากได้รับคุณประโยชน ์ที่มากมายก็ลองหัดทานกันดูนะคะ แต่สำหรับคนที่เพิ่งทดลองกินหรือไม่ชอบรสขมก็อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับรสชาติที่ขมมากกว่าช็อกโกแลตนม ก็ให้ลองกัดชิ้นเล็ก ๆแล้วปล่อยให้ละลายช้า ๆในปาก เพื่อให้รสขมซึมออกมาอย่างช้า ๆแล้วจะเริ่มรู้สึกถึงรสชาติของความหวานที่เป็นธรรมชาติ ด้วยความที่ดีต่อสุขภาพลองทานเล่นวันละนิดก็ยังดีนะคะ ไม่เสียหาย

 

คนทานมังสวิรัติกับช็อกโกแลต

ขึ้นอยู่กับความหมายของอาหารมังสวิรัติที่คุณเลือกทานด้วยเช่นกัน โดยส่วนใหญ่ช็อกโกแลตมีส่วนผสมของนม ถ้าหากคนที่เคร่งในการทานมังสวิรัตก็คงไม่ต้องการช็อกโกแลตที่มีส่วนผสมของนมผสมอยู่ แต่หากผู้ทานมังสวิรัติที่ไม่นับรวมนมกับอาหารมังสวิรัติก็สามารถทานได้ มันขึ้นอยู่กับประเภทของบุคคลที่เป็นมังสวิรัติ แบ่งได้เป็น 2 ประเภทดังนี้

  1. A locto – vegetarian มังสวิรัติ หมายถึงคนทานมังสวิรัตไม่กินเนื้อหรือ ปลา แต่คงกินนม และ ไข่ กลุ่มมังสวิรัติกลุ่มนี้สามารถที่จะกินช็อกโกแลตทุกชนิดได้
  2. A lacto – vegetarian มังสวิรัติ หมายถึงคนที่ไม่กินเนื้อ ก็สามารถทานช็อกโกแลตที่ไม่มีส่วนผสมของนมอยู่ ซึ้งสามารถดูได้จากส่วนผสมของช็อกโกแลตนั้น ๆ หรือ สอบถามผู้ผลิตช็อกโกแลตโดยตรง

 

อู้หูวว ใครจะทราบล่ะคะว่าเจ้าช็อกโกแลตที่เราชอบรับประทานหรือซื้อติดไม้ติดมือแอบซ่อนไว้ในกระเป๋าไว้แอบกินตอนทำงานบ้างหรือตอนเรียนบ้างนั้นก็มีประโยชน์เหมือนกันแฮะ แต่ไงก็แล้วแต่เราก็ต้องเลือกซื้อเลือกทานให้ถูกกันล่ะช็อกโกแลตนั้นมีหลายชนิดหลายแบบ ยัวไงก็หวังว่ากระทู้นี้จะช่วยจะเป็นความรู้ให้ทุกคนได้นะคะ และต่อจากนี้เราก็เลือกทานให้ถูกให้เหมาะให้ควร เพื่อสุขภาพที่ดีแล้วก็ความสวยความงามของเราก็จะดี๊ดีไปด้วยกันค่ะ